How Cursor is building the future of AI coding with Claude: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วย AI

เจาะลึกการเปลี่ยนแปลงวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วย AI ผ่านการพัฒนา Cursor กับโมเดล Claude ที่ช่วยให้นักพัฒนาทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

How Cursor is building the future of AI coding with Claude: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วย AI

ในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างลึกซึ้งในทุกแง่มุมของการพัฒนาซอฟต์แวร์ เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นกับวิธีการเขียนโค้ดและกระบวนการพัฒนาโปรแกรม Cursor คือหนึ่งในบริษัทที่อยู่แถวหน้าในการนำ AI มาช่วยเสริมประสิทธิภาพการเขียนโค้ด ผ่านการใช้โมเดลภาษาขั้นสูงอย่าง Claude ที่สร้างโดย Anthropic ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงวิวัฒนาการของ Cursor, การนำ AI มาปรับใช้ในงานเขียนโปรแกรม, ความท้าทายของการทำงานกับโค้ดเบสขนาดใหญ่ และแนวคิดเกี่ยวกับอนาคตของนักพัฒนาในยุค AI

Cursor เติบโตอย่างรวดเร็ว มีผู้ใช้หลายล้านคนและรายได้กว่า 300 ล้านในปีเดียว

การเติบโตและวิวัฒนาการของ Cursor ในปีที่ผ่านมา

ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี Cursor สามารถสร้างรายได้กว่า 300 ล้านดอลลาร์ และดึงดูดนักพัฒนาหลายล้านคนให้มาใช้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขา นี่เป็นผลจากการที่โมเดล AI พัฒนาคุณภาพขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะโมเดล Claude 3.5 Sonnet ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AI สามารถช่วยเขียนโค้ดได้ในระดับที่ซับซ้อนมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ Cursor เน้นไปที่ฟีเจอร์อย่างการเติมโค้ดอัตโนมัติ (tab completion) และการแก้ไขโค้ดภายในไฟล์เดียว แต่เมื่อโมเดล Claude 3.5 Sonnet เข้ามา AI สามารถจัดการกับการแก้ไขข้ามหลายไฟล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Cursor ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับนักพัฒนาหลายคน

โมเดล Claude 3.5 Sonnet ทำให้การแก้ไขโค้ดข้ามหลายไฟล์เป็นไปได้

การพัฒนาแบบก้าวกระโดดและการทดลองใช้ที่ไม่หยุดนิ่ง

แม้ว่าการก้าวกระโดดของโมเดลจะดูเหมือนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่จริงๆ แล้วเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องและมีการทดลองอย่างหนักหน่วง ทีมงาน Cursor ยอมรับว่าการทดสอบรสชาติของโมเดล (taste testing) เป็นเรื่องยาก เพราะวิธีการใช้งานของพวกเขาแตกต่างจากผู้ใช้ทั่วไปมาก อย่างไรก็ตาม แต่ละเวอร์ชันของโมเดลที่ออกมาจะมีความสามารถในการวิเคราะห์และเขียนโค้ดที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากการแก้ไขโค้ดหลายไฟล์แล้ว โมเดลยังเริ่มใช้ความสามารถในการเรียกใช้เครื่องมืออื่น ๆ (tool use) และทำงานเหมือนเอเจนต์ (agent) ภายในตัวแก้ไขโค้ดได้ ส่งผลให้สามารถทำงานที่ซับซ้อนและมีหลายขั้นตอนได้อย่างอัตโนมัติ

การใช้ Cursor เพื่อพัฒนา Cursor: วงจรฟีดแบคอัตโนมัติที่ทรงพลัง

หนึ่งในเรื่องที่น่าสนใจจากการสนทนาคือการที่ทีม Cursor ใช้เครื่องมือตัวเองเพื่อช่วยพัฒนาและปรับปรุง Cursor อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตัวอย่างของวงจรฟีดแบคแบบ Recursive ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยในแต่ละวัน พนักงานแต่ละคนจะใช้ AI ในรูปแบบที่แตกต่างกันตามลักษณะงาน เช่น การเริ่มต้นเขียนฟีเจอร์ใหม่ในโค้ดเบส การค้นคว้าข้อมูลในโค้ดเบสที่ไม่คุ้นเคย หรือการแก้ไขโค้ดอย่างละเอียด

ฟีเจอร์ Agent จะช่วยให้เริ่มต้นการเขียนโค้ดใหม่ได้เร็วขึ้น ส่วนฟีเจอร์ Tab ช่วยเติมโค้ดได้อย่างแม่นยำ และเครื่องมือค้นหา (QA) ช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์ในโค้ดเบสได้ดียิ่งขึ้น การใช้ AI เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองนี้ช่วยให้ทีม Cursor สามารถทดสอบฟีเจอร์ใหม่ได้อย่างรวดเร็วและตัดสินใจได้อย่างตรงไปตรงมาว่าฟีเจอร์ไหนควรพัฒนาและฟีเจอร์ไหนควรละทิ้ง

ทีมงาน Cursor ใช้ Cursor เพื่อพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์

ความหลากหลายของการใช้ AI ในการเขียนโปรแกรม

การใช้ AI ใน Cursor มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับงานและความคุ้นเคยกับโค้ดเบสนั้นๆ

  • สำหรับโค้ดที่คุ้นเคยดี การใช้ฟีเจอร์เติมโค้ด (tab) จะช่วยเพิ่มความเร็วและลดความผิดพลาด
  • ในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยหรือเมื่อต้องเขียนโค้ดจำนวนมาก AI จะช่วยลดภาระการเขียนและบางส่วนของการคิดวิเคราะห์
  • ในระดับที่ซับซ้อนขึ้น ฟีเจอร์ Agent จะช่วยแก้ไขหลายไฟล์พร้อมกัน
  • ฟีเจอร์ Background Agent ที่เพิ่งเปิดตัว จะช่วยให้ AI ทำงานในเบื้องหลัง เช่น การสร้าง Pull Request (PR) โดยนักพัฒนาสามารถสลับไปมาระหว่างการควบคุมแบบแมนนวลและการให้ AI ทำงานได้

นี่แสดงให้เห็นถึงสเปกตรัมของการใช้ AI ตั้งแต่การเติมโค้ดเล็กๆ ไปจนถึงการจัดการโครงการโค้ดขนาดใหญ่ในเบื้องหลัง

Background Agent: ก้าวใหม่ของการพัฒนาแบบขนานและอัตโนมัติ

Background Agent คือฟีเจอร์ที่ช่วยให้ AI ทำงานในสภาพแวดล้อมแยกต่างหาก (เหมือนเครื่องเสมือน) ที่ติดตั้งเครื่องมือและส่วนขยายสำหรับพัฒนาโค้ดไว้ครบถ้วน ทำให้ AI สามารถรันเทสต์ ตรวจสอบโค้ด และแก้ไขโค้ดในเบื้องหลังได้อย่างอิสระ

ผู้พัฒนาสามารถส่งงานไปให้ Background Agent ทำในเบื้องหลัง แล้วค่อยกลับมาควบคุมและปรับแต่งผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอให้ AI ทำงานเสร็จสมบูรณ์ก่อน นี่คือการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของนักพัฒนาให้เป็นแบบขนานและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

สภาพแวดล้อมการพัฒนาแยกต่างหากสำหรับ Background Agent

ความท้าทายของการตรวจสอบและความถูกต้องของโค้ดในอนาคต

แม้ AI จะเก่งขึ้นในการเขียนโค้ด แต่การตรวจสอบความถูกต้องและความเหมาะสมของโค้ดยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ เนื่องจากการเขียนโค้ดไม่ใช่แค่การทำให้โปรแกรมทำงานได้เท่านั้น แต่ยังต้องมั่นใจว่าโค้ดนั้นสอดคล้องกับความต้องการและมาตรฐานของโปรเจกต์

ทีม Cursor มองว่า การแก้ไขปัญหาการตรวจสอบโค้ด หรือ verification เป็นคอขวดถัดไปที่จะต้องแก้ไข เนื่องจากนักพัฒนาส่วนใหญ่ยังต้องใช้เวลามากในการตรวจสอบโค้ดที่เขียนขึ้น ซึ่งถ้าแก้ไขเฉพาะการเขียนโค้ดอย่างเดียว ก็ยังไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้อย่างเต็มที่

หนึ่งในแนวคิดที่น่าสนใจคือการใช้รูปแบบการแสดงผลของโค้ดในรูปแบบ pseudocode ที่กระชับและเข้าใจง่าย เพื่อช่วยลดเวลาการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของการเปลี่ยนแปลงโค้ดได้เร็วขึ้น

ความซับซ้อนของโค้ดเบสขนาดใหญ่และการแก้ปัญหา

การทำงานกับโค้ดเบสขนาดใหญ่ที่มีไฟล์และบรรทัดโค้ดนับล้านนั้น มีความซับซ้อนสูง ไม่ใช่แค่เรื่องการทำให้เทสต์ผ่านเท่านั้น แต่ยังต้องทำให้โค้ดใหม่สอดคล้องกับโครงสร้างและรูปแบบโค้ดเดิม รวมถึงแนวทางการเขียนของทีม

Cursor ใช้วิธีการหลายอย่างในการช่วยแก้ปัญหานี้ เช่น การฝึกโมเดลสำหรับการดึงข้อมูล (retrieval models) เพื่อให้ AI สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโค้ดที่กำลังแก้ไขได้อย่างแม่นยำ และการรวมบริบทของการเปลี่ยนแปลงล่าสุด รวมถึงข้อมูลจากทีมที่อาจอยู่ในช่องทางสื่อสารอื่นๆ เช่น Slack

อย่างไรก็ตาม การทำให้ AI เข้าใจองค์ความรู้ที่อยู่ภายนอกโค้ดเบส เช่น ความรู้ในองค์กร หรือข้อกำหนดทางธุรกิจ ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องใช้เวลาและความพยายามในการพัฒนา

ความซับซ้อนของโค้ดเบสขนาดใหญ่และองค์ความรู้ภายนอกโค้ดเบส

อนาคตของการเขียนโค้ดและการออกแบบ API ที่เป็นมิตรกับ AI

เราเริ่มเห็นแนวโน้มที่นักพัฒนาออกแบบ API และโค้ดเบสให้เหมาะสมกับการทำงานของโมเดลภาษา เช่น การทำให้เวอร์ชันของซอฟต์แวร์ชัดเจนในโค้ด เพื่อช่วยให้ AI เข้าใจและใช้งาน API ได้ถูกต้อง นอกจากนี้ การจัดโครงสร้างโค้ดให้ไม่ซับซ้อนเกินไปและลดระดับชั้นของการเรียกใช้โค้ด จะทำให้โมเดลสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในแง่ของหลักการเขียนโค้ดที่ดี เช่น การไม่ทำซ้ำโค้ดและการรักษาความเรียบร้อยของโค้ด ยังคงเป็นสิ่งสำคัญทั้งสำหรับมนุษย์และ AI และยิ่งเมื่อ AI เขียนโค้ดได้มากขึ้น การรักษาความสวยงามและความเป็นระเบียบของโค้ดจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น

การรักษาทักษะวิศวกรซอฟต์แวร์ท่ามกลางการพึ่งพา AI

มีความกังวลว่าการใช้ AI ช่วยเขียนโค้ดอาจทำให้นักพัฒนาขี้เกียจหรือไม่สามารถเรียนรู้ทักษะพื้นฐานได้อย่างลึกซึ้ง แต่จากประสบการณ์ของทีมงาน Cursor พบว่า AI เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ทางการศึกษา ช่วยให้นักพัฒนาสามารถถามคำถามและเข้าใจโค้ดได้เร็วขึ้น

กระบวนการเรียนรู้ผ่านการลองผิดลองถูก การทำซ้ำ และการแก้ไขปัญหา จะถูกเร่งด้วย AI ทำให้นักพัฒนาสามารถเรียนรู้ทักษะและหลักการเขียนโค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในอนาคต อาจมีนักพัฒนาที่เน้นทักษะในระดับสูงกว่า ไม่จำเป็นต้องรู้รายละเอียดโค้ดในระดับลึก แต่สามารถออกแบบและกำกับการทำงานของ AI ให้สร้างซอฟต์แวร์ตามความต้องการได้อย่างมีรสชาติและเหมาะสม

การเปิดตัวโมเดล Claude 4: ก้าวต่อไปของ AI ในการเขียนโค้ด

โมเดล Claude 4 ประกอบด้วยรุ่น Opus และ Sonnet ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถในการเขียนโค้ดและการทำงานแบบเอเจนต์ที่ดีขึ้นมาก รุ่น Sonnet 4 แก้ไขปัญหาความเร่งรีบเกินไป (over eagerness) ในการแก้ไขโค้ดและการเปลี่ยนแปลงเทสต์โดยไม่เหมาะสม

รุ่น Opus 4 มีความสามารถในการทำงานแบบเอเจนต์ในเบื้องหลังได้ดี แม้จะมีราคาถูกกว่าโมเดลอื่นๆ แต่ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ความก้าวหน้าของโมเดลเหล่านี้ช่วยให้ Cursor สามารถนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โมเดล Claude 4 รุ่น Opus และ Sonnet ที่พัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า

วิสัยทัศน์ของอนาคต: AI กับบทบาทของนักพัฒนา

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คาดว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในการเขียนโค้ดมากถึง 90% ขึ้นไป โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มอย่าง Cursor ที่มีฟีเจอร์ช่วยเขียนโค้ดอัตโนมัติและการจัดการโค้ดแบบเอเจนต์

อย่างไรก็ตาม นักพัฒนายังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของซอฟต์แวร์ การออกแบบระบบ และการมีรสนิยมในการเขียนโค้ดให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้และทีม

นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่คนในองค์กรจากสายงานอื่นๆ เช่น ฝ่ายขาย จะเริ่มสร้างซอฟต์แวร์ของตนเองโดยใช้ AI ช่วยทำให้งานเหล่านั้นง่ายขึ้น เช่น การสร้างแดชบอร์ดเพื่อติดตามข้อมูลสำคัญ

อนาคตอาจมาถึงจุดที่ซอฟต์แวร์สามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนาตัวเองตามการใช้งานของแต่ละบุคคลแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีที่เราปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน

คำแนะนำสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการก้าวเข้าสู่วงการ AI

สำหรับนักพัฒนาที่กำลังตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมกับบริษัทใหญ่หรือสตาร์ทอัพที่เน้น AI อย่าง Cursor หรือ Anthropic คำแนะนำคือสตาร์ทอัพในยุคนี้มีข้อได้เปรียบในการรวบรวมผู้มีความสามารถสูงในทีมขนาดเล็ก ทำให้สามารถทำงานอย่างรวดเร็วและมีผลกระทบสูง

งานที่นี่จึงเต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงวิธีการเขียนโค้ดของโลกได้อย่างแท้จริง

ข้อดีของการทำงานที่สตาร์ทอัพ AI เช่น Cursor และ Anthropic

บทสรุปจาก Insiderly

การผสมผสาน AI กับการพัฒนาซอฟต์แวร์กำลังเปลี่ยนแปลงวงการอย่างลึกซึ้ง Cursor คือหนึ่งในผู้นำที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ผ่านการพัฒนาฟีเจอร์ที่ช่วยให้นักพัฒนาทำงานได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำงานในระดับที่ซับซ้อนได้โดยง่าย

แม้จะมีความท้าทายด้านการตรวจสอบและความซับซ้อนของโค้ดเบสขนาดใหญ่ แต่แนวทางการใช้ AI ในรูปแบบเอเจนต์และการพัฒนาเครื่องมืออย่าง Background Agent ช่วยเปิดทางสู่การพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความคล่องตัวและอัตโนมัติมากขึ้น

ในอนาคต AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเขียนโค้ดและการออกแบบซอฟต์แวร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การมีรสนิยม ความเข้าใจเชิงลึก และการกำกับดูแลโดยมนุษย์ยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เพื่อให้ซอฟต์แวร์มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง

สุดท้ายนี้ การเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี AI จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับนักพัฒนาในยุคใหม่ที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมและก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ของการเขียนโปรแกรม

คำศัพท์เฉพาะทางที่น่าสนใจ

  • Agent: โมเดล AI ที่ทำงานเป็นตัวแทนในการดำเนินการหลายขั้นตอนหรือหลายไฟล์ในโค้ดเบส
  • Tab Completion: ฟีเจอร์เติมโค้ดอัตโนมัติที่ช่วยคาดเดาโค้ดถัดไปที่นักพัฒนาต้องการพิมพ์
  • Background Agent: ฟีเจอร์ที่ให้ AI ทำงานในเบื้องหลัง เช่น การสร้าง Pull Request และแก้ไขโค้ดโดยอัตโนมัติ
  • Retrieval Models: โมเดลที่ช่วยดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากโค้ดเบสหรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อช่วย AI ทำความเข้าใจบริบท
  • Verification: กระบวนการตรวจสอบความถูกต้องและความเหมาะสมของโค้ดที่ถูกเขียนหรือแก้ไข
  • Reward Hacking: ปรากฏการณ์ที่โมเดล AI หาวิธีลัดเพื่อบรรลุเป้าหมายโดยไม่ทำตามเจตนาที่แท้จริงของผู้ใช้
  • DSL (Domain-Specific Language): ภาษาที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับงานหรือโดเมนใดโดเมนหนึ่งในโค้ดเบส

Great! You’ve successfully signed up.

Welcome back! You've successfully signed in.

You've successfully subscribed to บทความและข่าวอัพเดท จาก Insiderly.

Success! Check your email for magic link to sign-in.

Success! Your billing info has been updated.

Your billing was not updated.