เจาะลึกเรื่องราวของ Alexandr Wang ซีอีโอ Scale AI การเปลี่ยนแปลงงานด้วย Agents และการแข่งขัน AI ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน พร้อมวิเคราะห์เทคโนโลยีและโมเดล AI ที่กำลังพลิกโฉมธุรกิจทั่วโลก
สำรวจการเปลี่ยนแปลงของซอฟต์แวร์จาก Software 1.0 ถึง 3.0 ผ่านมุมมองของ Andrej Karpathy อดีตผู้อำนวยการ AI ของ Tesla พร้อมเจาะลึกบทบาทของ LLMs ในการสร้างคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ที่โปรแกรมด้วยภาษาธรรมชาติ
เจาะลึกบทสัมภาษณ์พิเศษจากผู้บริหาร Apple ในงาน WWDC 2025 เผยเหตุผลความล่าช้า Siri รุ่นใหม่, การพัฒนา iOS 26, เทคโนโลยี AI และกลยุทธ์รักษาความเป็นส่วนตัวที่เหนือชั้น
Code with Claude Opening Keynote: การปฏิวัติวงการ AI สำหรับนักพัฒนาและองค์กรยุคใหม่
สำรวจวิสัยทัศน์ Anthropic ในการพัฒนา AI agents ทรงพลัง พร้อมเปิดตัว Claude 4 Opus และ Sonnet ที่ช่วยนักพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและนวัตกรรมองค์กรอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิผล
ในยุคที่ AI กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ คลิป “Code with Claude Opening Keynote” โดย Anthropic ได้เผยให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และเทคโนโลยีสุดล้ำที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของนักพัฒนาและองค์กรทั่วโลก โดยเนื้อหานี้จะพาเราไปเจาะลึกถึงความก้าวหน้าของโมเดล Claude 4 รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมกับเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ AI ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม
วิสัยทัศน์ของ Anthropic และบทบาทของ AI ในการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์
Mike Krieger, Chief Product Officer ของ Anthropic และอดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Instagram, ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการเข้าร่วม Anthropic ที่มุ่งเน้นการพัฒนา AI ที่ทรงพลังและน่าเชื่อถือ ซึ่งไม่ใช่การแทนที่มนุษย์แต่เป็นการเสริมศักยภาพและขยายขอบเขตความสามารถของเรา AI agents หรือเอเจนต์อัจฉริยะ กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและนวัตกรรม ด้วยการช่วยลบข้อจำกัดที่เคยจำกัดประสิทธิภาพของมนุษย์
ความเปลี่ยนแปลงนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับสตาร์ทอัพและนักพัฒนา เพราะ AI agents ช่วยให้สามารถทดลองและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้หลายโครงการพร้อมกัน และให้ความช่วยเหลือเชิงกลยุทธ์เหมือนมี CFO หรือหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์อยู่เคียงข้าง แม้ว่ายังไม่พร้อมจ้างคนจริงๆ ก็ตาม
เปิดตัว Claude 4: Opus และ Sonnet โมเดล AI ที่ทรงพลังและเหมาะสมกับทุกงาน
การประกาศเปิดตัว Claude 4 Opus และ Claude 4 Sonnet โดย Dario Amodei CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Anthropic ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัท Opus เป็นโมเดลที่เน้นงานด้านการเขียนโค้ดและงานเอเจนต์ที่ซับซ้อน มีประสิทธิภาพสูงในการทำงานอัตโนมัติที่มนุษย์ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ในขณะที่ Sonnet เป็นโมเดลระดับกลางที่เน้นความสมดุลระหว่างความฉลาดและประสิทธิภาพ เหมาะกับงานเขียนโค้ดทั่วไปและการพัฒนาแอปที่ต้องการความรวดเร็วและปริมาณการใช้งานสูง
โมเดลทั้งสองนี้มาพร้อมกับโหมดตอบสนองแบบทันทีและโหมดคิดเชิงลึกที่ช่วยให้ AI สามารถจัดการงานที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถใช้งานผ่านหลายแพลตฟอร์ม เช่น Claude, Claude Code, API ของ Anthropic, Amazon Bedrock และ Google Cloud Vertex AI
ความสามารถใหม่ของ AI agents: การทำงานร่วมกับเครื่องมือและการจัดการหน่วยความจำ
หนึ่งในฟีเจอร์เด่นของ Claude 4 คือความสามารถในการใช้เครื่องมือต่างๆ พร้อมกัน เช่น การค้นหาข้อมูลบนเว็บ การเข้าถึงไฟล์ในเครื่อง และการจัดการหน่วยความจำแบบยาวนาน ทำให้ AI สามารถทำงานที่ต้องใช้ข้อมูลปัจจุบันและบริบทขององค์กรได้อย่างแม่นยำและต่อเนื่อง
นี่ไม่ใช่แค่การพัฒนาที่ต่อเนื่อง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ AI agents สามารถทำงานอิสระได้ในระยะเวลาหลายชั่วโมงโดยไม่เสียสมาธิ ตัวอย่างเช่น Rakuten ได้ทดลองใช้ Claude อย่างอิสระเป็นเวลาถึงเจ็ดชั่วโมงโดยมีประสิทธิภาพไม่ตก
นอกจากนี้ Anthropic ยังเปิดตัวเครื่องมือ code execution ที่ช่วยให้ Claude สามารถเขียนและรันโค้ดได้จริงในสภาพแวดล้อมจำลอง ทำให้ AI ทำหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลที่แปลงข้อมูลดิบเป็นภาพและข้อมูลเชิงลึกได้ทันที อีกทั้งยังสามารถปรับปรุงโค้ดได้อย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติ
Claude Code: ตัวช่วยนักพัฒนาที่ทำงานได้เหมือนเพื่อนร่วมทีม
Claude Code คือเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถเข้าถึงพลังของโมเดล Claude ได้โดยตรงผ่านเทอร์มินัล และตอนนี้ได้เปิดให้ใช้งานทั่วไปแล้ว พร้อมกับการรองรับการใช้งานใน IDE ยอดนิยมอย่าง VS Code และ JetBrains ซึ่งช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงโค้ดแบบเรียลไทม์ในตัวแก้ไข
ความสามารถของ Claude Code ยังขยายไปถึง SDK ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันและเวิร์กโฟลว์ที่ใช้ AI ได้อย่างอิสระ เช่น การใช้ Claude Code ใน GitHub เพื่อจัดการกับคำติชมของรีวิวโค้ด แก้ไขข้อผิดพลาด CI และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างในคลิปได้สาธิตการให้ Claude Code เพิ่มฟีเจอร์ตารางในโปรเจกต์ Excalidraw โดยใช้เวลาทำงานเกือบ 90 นาที เพื่อสร้างฟีเจอร์ที่ปกติอาจกินเวลาหลายวัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการทำงานซับซ้อนแทนนักพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แพลตฟอร์ม Anthropic API: เครื่องมือครบวงจรสำหรับการสร้าง AI agents
Michael Gerstenhaver หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Anthropic API ได้อธิบายว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชัน AI ที่เสถียร ปลอดภัย และดูแลรักษาง่าย โดยมีฟีเจอร์อย่าง prompt caching ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน
การพัฒนาต่อเนื่องของ Claude 4 และอนาคตของ AI ในงานวิจัยและการใช้งานจริง
Dario Amodei ได้พูดคุยถึงความรู้สึกและมุมมองต่อ Claude 4 ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในการใช้โมเดล AI ที่สามารถทำงานอัตโนมัติในงานที่ซับซ้อนได้ยาวนานขึ้น เช่น งานทางด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้และงานวิจัยทางชีววิทยา
เขายังแชร์ประสบการณ์ที่โมเดล Claude 4 สามารถเขียนเนื้อหาที่ดูเหมือนมนุษย์เขียนได้อย่างแนบเนียนจนเขาถูกหลอกให้คิดว่าเป็นคนในทีมเขียน และชี้ให้เห็นว่าความสามารถของโมเดล AI จะพัฒนาอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
Anthropic ได้นำเสนอภาพรวมที่ชัดเจนของอนาคต AI ที่ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็น "ผู้ช่วย" ที่เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของมนุษย์ ด้วยการพัฒนาโมเดล Claude 4 ที่มีทั้ง Opus สำหรับงานซับซ้อนและ Sonnet สำหรับงานทั่วไป ทำให้ครอบคลุมความต้องการของนักพัฒนาทุกระดับ
การเปิดตัวเครื่องมืออย่าง Claude Code และ SDK ที่ช่วยให้ AI ทำงานร่วมกับนักพัฒนาในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยอย่าง IDE และ GitHub ช่วยลดช่องว่างระหว่างมนุษย์และ AI ทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชันเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือการเน้นเรื่องความปลอดภัยและความรับผิดชอบของ AI agents ผ่านสถาปัตยกรรมความปลอดภัยและการควบคุมการทำงาน เพื่อป้องกันความผิดพลาดและการละเมิดความลับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรที่นำ AI มาใช้จริง
การที่ MCP ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วในวงการแสดงให้เห็นถึงความต้องการมาตรฐานกลางในการเชื่อมต่อระบบ AI agents ซึ่งจะช่วยให้เกิดระบบนิเวศน์ของ AI ที่หลากหลายและสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในเชิงเศรษฐกิจและธุรกิจ ความสามารถในการลดต้นทุนการสร้างซอฟต์แวร์ด้วย AI จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพัฒนาและตลาดอย่างลึกซึ้ง ทำให้การสร้างซอฟต์แวร์แบบเฉพาะกิจหรือแบบใช้ครั้งเดียวเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสและความท้าทายใหม่สำหรับผู้ประกอบการและนักพัฒนา
คำศัพท์เฉพาะทางที่น่าสนใจ
AI agents (เอเจนต์ AI): ระบบ AI ที่สามารถทำงานอิสระและตัดสินใจได้ตามเป้าหมายที่กำหนด
Model Context Protocol (MCP): โปรโตคอลมาตรฐานสำหรับเชื่อมต่อ AI agents กับระบบและเครื่องมือต่าง ๆ
Prompt caching: การเก็บข้อมูลคำสั่งและข้อมูลบริบทเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความเร็วในการประมวลผลของโมเดล AI
Code execution tool: เครื่องมือที่ช่วยให้โมเดล AI สามารถเขียนและรันโค้ดจริงในสภาพแวดล้อมจำลอง
SDK (Software Development Kit): ชุดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเพื่อสร้างแอปพลิเคชันหรือฟีเจอร์เพิ่มเติมบนแพลตฟอร์ม AI
บทสรุปจาก Insiderly
งานเปิดตัว “Code with Claude” ของ Anthropic แสดงให้เห็นถึงการก้าวกระโดดของเทคโนโลยี AI ที่พร้อมจะเปลี่ยนโฉมหน้าการพัฒนาซอฟต์แวร์และการทำงานขององค์กรทั่วโลก Claude 4 รุ่นใหม่ ทั้ง Opus และ Sonnet พร้อมเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่ครบครัน ช่วยให้ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่กลายเป็นพันธมิตรที่แท้จริงในการสร้างสรรค์และแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
สำหรับนักพัฒนาและองค์กร นี่คือโอกาสทองที่จะใช้ AI เพิ่มศักยภาพในการสร้างสรรค์และนวัตกรรมอย่างก้าวกระโดด การเปิดใจรับเทคโนโลยีใหม่และกล้าที่จะทดลองสร้างสิ่งที่ใหญ่กว่าที่คิดจะเป็นกุญแจสำคัญในยุคของ AI agents ที่กำลังมาถึง
ท้ายที่สุด การพัฒนาของ AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่ยังเป็นเรื่องของการร่วมมือกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเปลี่ยนแปลงโลกในทางบวกอย่างแท้จริง
สำรวจการเปลี่ยนแปลงของซอฟต์แวร์จาก Software 1.0 ถึง 3.0 ผ่านมุมมองของ Andrej Karpathy อดีตผู้อำนวยการ AI ของ Tesla พร้อมเจาะลึกบทบาทของ LLMs ในการสร้างคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ที่โปรแกรมด้วยภาษาธรรมชาติ
เจาะลึกบทสัมภาษณ์พิเศษจากผู้บริหาร Apple ในงาน WWDC 2025 เผยเหตุผลความล่าช้า Siri รุ่นใหม่, การพัฒนา iOS 26, เทคโนโลยี AI และกลยุทธ์รักษาความเป็นส่วนตัวที่เหนือชั้น