ทุกสิ่งที่ควรรู้จากคอร์ส Google Prompting Essentials: ก้าวสู่การใช้ Generative AI อย่างชาญฉลาดในที่ทำงาน

เจาะลึกหลักสูตร Google Prompting Essentials ที่ช่วยให้คุณสร้างคำสั่ง AI อย่างชาญฉลาด ด้วยกรอบ TCREI พร้อมเทคนิคปรับปรุง prompt และตัวอย่างใช้งานจริงในที่ทำงาน

ทุกสิ่งที่ควรรู้จากคอร์ส Google Prompting Essentials: ก้าวสู่การใช้ Generative AI อย่างชาญฉลาดในที่ทำงาน

เมื่อพูดถึงปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ หรือ Generative AI หลายคนคงเคยสัมผัสประสบการณ์ใช้งานมาแล้ว บางครั้งได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ บางครั้งก็ผิดหวัง ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับหลักสูตร Google Prompting Essentials ซึ่งถูกออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จาก Google เพื่อสอนเทคนิคการสร้างคำสั่ง หรือ “prompt” ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เราสามารถทำงานได้เร็วขึ้นและฉลาดขึ้นด้วยการใช้ Generative AI เป็นผู้ช่วยที่ทรงพลัง

แนะนำคอร์ส Google Prompting Essentials โดยทีม AI จาก Google

ทำความเข้าใจพื้นฐานของ Prompting: ศิลปะและวิทยาศาสตร์แห่งการสั่งงาน AI

Prompting คือกระบวนการให้คำสั่งที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงกับเครื่องมือ Generative AI เพื่อให้ได้ข้อมูลใหม่หรือผลลัพธ์ที่ต้องการในงานหนึ่ง ๆ คำสั่งเหล่านี้เรียกว่า “prompt” ซึ่งอาจรวมถึงข้อความ รูปภาพ หรือแม้แต่เสียงและโค้ดก็ได้ AI บางชนิดสามารถสร้างเนื้อหาข้อความ บางชนิดสร้างภาพ หรือวิดีโอได้ ความท้าทายคือการเขียน prompt ที่แม่นยำและมีรายละเอียดเพียงพอ เพื่อให้ AI เข้าใจความต้องการอย่างแท้จริง เหมือนกับการอธิบายงานให้เพื่อนร่วมทีมฟังอย่างละเอียดตั้งแต่ต้น

สิ่งสำคัญคือการให้ บริบท และการตั้งเงื่อนไขที่ชัดเจน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและตรงกับวัตถุประสงค์มากที่สุด นี่คือหัวใจของการทำงานร่วมกับ AI ที่กำลังกลายเป็นทักษะสำคัญในยุคนี้

Prompting Framework: เคล็ดลับสร้าง prompt ที่ยอดเยี่ยม

คอร์สนี้แนะนำให้ใช้กรอบการทำงานที่เรียกว่า Task, Context, References, Evaluate, Iterate หรือย่อว่า TCREI ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จในการเขียน prompt ที่ดี

  • Task: ระบุงานที่ต้องการให้ AI ช่วยอย่างชัดเจน พร้อมระบุ persona หรือบทบาทของ AI ที่ต้องการ เช่น นักเขียนคำโฆษณามืออาชีพ หรือผู้บริหารด้านการตลาดที่มีประสบการณ์ 15 ปี รวมถึงรูปแบบผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น รายการหัวข้อย่อย ตาราง หรือประโยคสั้น ๆ
  • Context: ให้รายละเอียดและข้อมูลประกอบที่ช่วยให้ AI เข้าใจงานได้ดีขึ้น เช่น งบประมาณ อายุของผู้รับของขวัญ หรือความชอบเฉพาะเจาะจง
  • References: ให้ตัวอย่างหรือข้อมูลอ้างอิงที่ AI สามารถนำไปใช้ในการสร้างผลลัพธ์ เช่น ตัวอย่างของขวัญที่เคยให้ หรือสไตล์การเขียนที่ต้องการ
  • Evaluate: ตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้ว่าตรงกับความต้องการหรือไม่
  • Iterate: ปรับปรุงและแก้ไข prompt เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยการเพิ่มรายละเอียดหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่ง

การใช้กรอบนี้ช่วยให้เราสร้าง prompt ที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำงานกับ Generative AI

ตัวอย่างการใช้ Prompt Framework กับแนวคิดรองเท้ากีฬา

การประยุกต์ใช้ Prompt Framework กับงานจริง: ตัวอย่างการสร้างไอเดียรองเท้ากีฬา

ลองนึกภาพว่าเราต้องการสร้างไอเดียสำหรับรองเท้ากีฬาใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเริ่มจากการให้ AI สร้างไอเดีย 5 แบบแรก เราจะเห็นว่าถ้าระบุแค่คำสั่งงาน (Task) อย่างเดียว ผลลัพธ์ที่ได้อาจกว้างและไม่เฉพาะเจาะจง

แต่เมื่อเพิ่มรายละเอียด เช่น รูปแบบผลลัพธ์ที่ต้องการเป็น outline ของแนวคิดและวัสดุที่ใช้ หรือเพิ่มบริบทว่ารองเท้าควรเหมาะกับนักกีฬาที่ทำกิจกรรม cross training ผลลัพธ์จะมีความเฉพาะและมีประโยชน์มากขึ้น

ถัดมา การใส่ references เช่น ตัวอย่างรองเท้าที่มีฐานราคาถูกหรือมีเทคโนโลยีพื้นรองเท้า adaptive จะช่วยให้ AI ปรับแต่งไอเดียให้เหมาะสมและน่าสนใจยิ่งขึ้น

นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการให้รายละเอียดและบริบทที่เหมาะสมช่วยเพิ่มคุณภาพของผลลัพธ์ได้มากแค่ไหน

ตัวอย่างการสร้าง prompt สำหรับรองเท้ากีฬา

การปรับปรุงคำสั่ง (iteration) และเทคนิคช่วยแก้ไข prompt

เมื่อผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่ตรงใจ เราสามารถใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อปรับปรุง เช่น

  • เพิ่มความชัดเจนและรายละเอียดใน Task, Context, References
  • แยกคำสั่งที่ยาวออกเป็นประโยคสั้น ๆ เพื่อให้ AI สามารถโฟกัสกับแต่ละงานได้ง่ายขึ้น เช่น สรุปข้อมูล สร้างกราฟ และย่อข้อมูล
  • ลองใช้คำถามหรือคำสั่งที่มีลักษณะคล้ายกัน (analogous task) เพื่อให้ AI มองงานในมุมใหม่ เช่น แทนที่จะขอแผนการตลาด อาจขอเป็นเรื่องราวที่แสดงถึงสินค้าในชีวิตประจำวันของลูกค้าเป้าหมาย
  • เพิ่มข้อจำกัด (constraints) เพื่อให้ผลลัพธ์เฉพาะเจาะจงและน่าสนใจขึ้น เช่น การสร้างเพลย์ลิสต์เพลงโดยกำหนดให้ไม่ซ้ำกับเพลงที่เคยฟังบ่อย ๆ

หลักการสำคัญคือ Always Be Iterating (ABI) หรือ “ทำซ้ำ ปรับปรุงอยู่เสมอ” เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เทคนิคการปรับปรุง prompt ให้ดีขึ้น

การใช้ Generative AI สร้างภาพและการทำ Multimodal Prompting

ไม่ใช่แค่ข้อความเท่านั้นที่ AI สามารถสร้างได้ แต่ยังรวมถึงภาพและสื่ออื่น ๆ ด้วย โดยการสร้างภาพต้องใช้ prompt ที่มีรายละเอียดชัดเจน เช่น ขนาด สี ตำแหน่ง และสไตล์ภาพ เพื่อให้ AI เข้าใจและสร้างภาพตามที่ต้องการ

ตัวอย่างเช่น การสร้างภาพกีตาร์ไฟฟ้าสำหรับโปสเตอร์ด้วยสไตล์ภาพถ่ายที่มีสีสันสดใส และกีตาร์ลอยอยู่บนท้องฟ้า

นอกจากนี้ยังมี multimodal prompting ซึ่งเป็นการใช้ข้อมูลหลายรูปแบบผสมกัน เช่น ใส่ภาพและข้อความร่วมกันเพื่อให้ AI สร้างผลลัพธ์ที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การให้ AI วิเคราะห์ภาพเล็บศิลปะพร้อมเขียนแคปชั่นโซเชียลมีเดียที่สนุกสนานและเหมาะสม

การใช้ multimodal prompting ช่วยให้เราเข้าใจข้อมูลได้ลึกซึ้งขึ้นและเปิดโอกาสให้แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในที่ทำงาน

การสร้างภาพด้วย Generative AI

แนวทางการใช้ Generative AI อย่างรับผิดชอบในที่ทำงาน

แม้ว่า Generative AI จะมีพลังมาก แต่การใช้งานต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบและข้อจำกัด เช่น

  • ตรวจสอบว่าเป้าหมายของการใช้ AI สอดคล้องกับนโยบายองค์กร กฎหมาย และความรับผิดชอบต่อผู้ร่วมงานและลูกค้าหรือไม่
  • หลีกเลี่ยงการป้อนข้อมูลลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลลงในเครื่องมือ AI สาธารณะ ควรใช้เวอร์ชันที่องค์กรอนุญาต
  • ประเมินผลลัพธ์อย่างรอบคอบเพื่อหาข้อผิดพลาดหรืออคติที่อาจเกิดขึ้น และเปิดเผยการใช้ AI เมื่อแชร์ข้อมูลกับผู้อื่น
  • ระวัง “hallucinations” หรือการสร้างข้อมูลผิดพลาดของ AI ที่เกิดจากการเข้าใจคำสั่งไม่ชัดเจน

ตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงคือการสร้างภาพแมวบนจรวดที่แมวอยู่บนยอดจรวดแทนที่จะอยู่ในห้องโดยสาร ซึ่งเกิดจากการสื่อสาร prompt ที่ไม่ชัดเจนและต้องปรับแก้ให้เจาะจงมากขึ้น

เครื่องมือบางตัว เช่น Gemini มีฟังก์ชันตรวจสอบข้อเท็จจริงในตัว ช่วยให้เปรียบเทียบข้อมูลและลดความผิดพลาดได้ดีขึ้น

คำเตือนการใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบ

การใช้ Generative AI เพื่อช่วยสรุปข้อมูลและจัดการงานประจำวัน

ในโลกการทำงานที่เต็มไปด้วยข้อมูลจำนวนมาก การใช้ AI ช่วยสรุปเนื้อหาและจัดการงานต่าง ๆ เป็นเรื่องจำเป็น ตัวอย่างเช่น การสรุปบทความวิจัยยาว ๆ หรือสรุปรายงานที่มีข้อมูลซับซ้อน ทำให้เข้าใจง่ายและประหยัดเวลา

สามารถใช้ AI สร้างสรุปแบบหลายระดับ ตั้งแต่สรุปยาวไปจนถึงประโยคเดียวที่จับใจความสำคัญ หรือจะให้ AI อธิบายเนื้อหาในมุมมองต่าง ๆ เช่น สำหรับผู้ที่ไม่ถนัดตัวเลข หรือใช้คำพูดในสไตล์ภาพยนตร์ยุค 80 เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ

เทคนิคอย่าง chain of density prompting ช่วยให้ได้สรุปที่กระชับและตรงประเด็น โดยการปรับความยาวและรายละเอียดของสรุปทีละขั้น

ตัวอย่างการสรุปข้อมูลด้วย Generative AI

การใช้ AI วิเคราะห์และสร้างภาพข้อมูล (Data Visualization)

นอกจากการสรุปข้อมูลแล้ว AI ยังช่วยวิเคราะห์และแนะนำวิธีการแสดงข้อมูลในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น กราฟแท่ง กราฟวงกลม หรือ stacked bar chart เพื่อให้เข้าใจความสัมพันธ์ของข้อมูลได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายหนังสือในร้านหนังสือ โดย AI ช่วยแนะนำประเภทกราฟที่เหมาะสมและวิธีการปรับแต่งกราฟให้น่าสนใจและชัดเจน

แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกเครื่องมือที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างภาพได้ ควรตรวจสอบความสามารถของเครื่องมือที่ใช้ก่อนเสมอ

การสร้างกราฟและภาพข้อมูลด้วย AI

การสร้างงานนำเสนอและเตรียมพูดด้วย AI

การนำเสนอเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยถ่ายทอดข้อมูลและโน้มน้าวใจผู้ฟัง Generative AI สามารถช่วยวางโครงสร้างงานนำเสนอ สรุปเนื้อหาสำคัญ และสร้างภาพประกอบให้น่าสนใจ รวมถึงช่วยร่างบันทึกพูด (speaker notes) ที่มีน้ำเสียงเหมาะสมกับผู้ฟัง เช่น ผู้บริหาร หรือทีมการตลาด

นอกจากนี้ยังสามารถอัดเสียงตัวเองแล้วให้ AI วิเคราะห์และให้คำแนะนำเกี่ยวกับน้ำเสียง จังหวะ และการสื่อสาร เพื่อพัฒนาทักษะการพูดให้ดีขึ้น

ด้วยความสามารถของ AI ที่มี context window ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถจัดการงานที่ซับซ้อนและต่อเนื่องได้ดี

ตัวอย่างการสร้างโครงงานนำเสนอและบันทึกพูดด้วย AI

การสร้าง AI Agents: เปลี่ยน AI ให้เป็นผู้ช่วยเฉพาะทาง

AI Agents คือการออกแบบ prompt เพื่อเปลี่ยน Generative AI ให้ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น การจำลองบทสนทนาเพื่อฝึกซ้อมสัมภาษณ์งาน หรือให้คำปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ โดยแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก

  • Agent Sim: จำลองสถานการณ์ เช่น การฝึกซ้อมสัมภาษณ์งาน โดย AI จะทำหน้าที่เป็นผู้สัมภาษณ์และให้คำแนะนำหลังจบ
  • Agent X: เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวที่ให้ฟีดแบ็กและคำแนะนำในเรื่องที่ต้องการ เช่น การติชมแผนการตลาดจากมุมมองลูกค้า

การสร้าง AI Agents ช่วยให้เรามีเครื่องมือที่สามารถปรับแต่งได้ตามงานและความต้องการเฉพาะ เพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นใจในการทำงานได้อย่างมาก

ตัวอย่างการสร้าง AI Agent สำหรับฝึกสัมภาษณ์งาน

การจัดการและเก็บรักษา Prompt: Prompt Versioning และ Prompt Library

การพัฒนาทักษะการเขียน prompt ต้องมีการทดลองและจดบันทึกว่าคำสั่งแบบไหนทำงานได้ดี เพื่อให้ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง สามารถนำ prompt ที่ได้ผลดีมาใช้ซ้ำ ปรับแต่ง หรือพัฒนาเป็นเวอร์ชันใหม่ตามความต้องการ

การสร้าง Prompt Library หรือคลังคำสั่งส่วนตัว ช่วยให้ค้นหาและใช้งาน prompt ได้รวดเร็วขึ้น และยังช่วยแบ่งปันความรู้กับชุมชนผู้ใช้ AI ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้และแรงบันดาลใจที่ดี

เปรียบเทียบเหมือนการทำเมนูอาหารที่ประสบความสำเร็จแล้ว อยากลองเพิ่มรสชาติใหม่ ๆ โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์

บทสรุป: ก้าวสู่การใช้ Generative AI อย่างชาญฉลาดและรับผิดชอบ

คอร์ส Google Prompting Essentials สอนให้เราเข้าใจและใช้ Generative AI อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การเขียน prompt เบื้องต้นจนถึงเทคนิคขั้นสูง เช่น การทำ prompt chaining และการสร้าง AI agents ที่เหมาะกับงานมากมายในชีวิตจริง

การเรียนรู้วิธีการประเมินผลลัพธ์และปรับปรุงคำสั่งอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ การใช้ AI อย่างรับผิดชอบโดยการตรวจสอบข้อมูลและหลีกเลี่ยงอคติเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

สุดท้าย การมีคลัง prompt ส่วนตัวและการแลกเปลี่ยนความรู้ในชุมชนจะช่วยให้ก้าวหน้าพร้อมกับโลกของ AI ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

นี่คือก้าวแรกสู่การทำงานอย่างชาญฉลาดด้วย Generative AI ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ และน่าจะเป็นทักษะสำคัญในอนาคตที่ทุกคนควรมีไว้ในมือ

คำศัพท์เฉพาะเพิ่มเติม

  • Prompting: การให้คำสั่งหรือคำถามกับ AI เพื่อสร้างผลลัพธ์ตามต้องการ
  • Multimodal Prompting: การใช้ข้อมูลหลายรูปแบบ เช่น ข้อความและภาพ ร่วมกันในการสั่งงาน AI
  • Prompt Chaining: การสร้างคำสั่ง AI หลายขั้นตอนที่เชื่อมโยงกัน เพื่อแก้ไขงานที่ซับซ้อน
  • Chain of Density Prompting: เทคนิคการสรุปข้อมูลโดยค่อย ๆ ลดความยาวและรายละเอียดลงในหลายระดับ
  • AI Agents: AI ที่ถูกออกแบบให้ทำหน้าที่เฉพาะทาง เช่น ผู้ช่วยจำลองสถานการณ์ หรือที่ปรึกษาส่วนตัว

บทสรุปสุดท้ายจากทีม Insiderly

  • การสร้าง prompt ที่ดีต้องมีรายละเอียดชัดเจนและบริบทครบถ้วน เพื่อให้ AI เข้าใจและตอบสนองได้ถูกต้อง
  • การเรียนรู้และปรับปรุง prompt อย่างต่อเนื่อง (ABI) คือกุญแจสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • การใช้ multimodal prompting เปิดโอกาสให้ AI ประมวลผลข้อมูลหลากหลายรูปแบบพร้อมกัน สะดวกและทรงพลังยิ่งขึ้น
  • ต้องใช้ AI อย่างรับผิดชอบ โดยตรวจสอบข้อมูลและหลีกเลี่ยงการป้อนข้อมูลลับในเครื่องมือสาธารณะ
  • การสร้าง AI agents ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นใจในการทำงานผ่านการจำลองสถานการณ์และให้คำปรึกษาเฉพาะทาง
  • การเก็บรักษาและจัดการ prompt อย่างเป็นระบบช่วยเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการใช้งาน AI ในระยะยาว
  • ทักษะการเขียน prompt กำลังกลายเป็นความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการทำงานในยุคดิจิทัล

Great! You’ve successfully signed up.

Welcome back! You've successfully signed in.

You've successfully subscribed to บทความและข่าวอัพเดท จาก Insiderly.

Success! Check your email for magic link to sign-in.

Success! Your billing info has been updated.

Your billing was not updated.