ในงาน WWDC 2025 ครั้งนี้ Apple ได้เปิดตัวการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีสำหรับระบบปฏิบัติการของตน พร้อมกับเพิ่มความสามารถของ Apple Intelligence ที่จะทำให้ประสบการณ์การใช้งานของเราทั้งบน iPhone, iPad, Mac, Apple Watch, Vision Pro และ tvOS มีความชาญฉลาดและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
บทความนี้จะสรุปประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองจากการประกาศครั้งนี้ พร้อมด้วยมุมมองที่ช่วยให้เข้าใจถึงทิศทางและนวัตกรรมที่ Apple มุ่งเน้นในปี 2025 นี้
การก้าวสู่ยุคใหม่ของ Apple Intelligence
Apple Intelligence หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ของ Apple ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประสบการณ์ผู้ใช้ในทุกแพลตฟอร์ม ปีนี้ Apple ได้ประกาศขยายฟีเจอร์และขีดความสามารถของ AI ด้วยการเปิดตัว Foundation Models Framework ที่ให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) ที่ทำงานแบบออฟไลน์บนอุปกรณ์ได้โดยตรง
ความน่าสนใจของ Foundation Models Framework คือ การผสมผสานความรวดเร็ว ความเป็นส่วนตัว และความทรงพลังเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งหมายความว่าแอปพลิเคชันต่าง ๆ สามารถให้บริการ AI โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ ส่งผลให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ไม่ถูกส่งออกนอกเครื่อง นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ Apple ยังขยายการรองรับภาษาใน Apple Intelligence เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้ทั่วโลกได้มากขึ้น รวมถึงพัฒนาความสามารถของโมเดลให้มีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูงขึ้น ทำให้ AI สามารถถูกนำไปใช้ในบริบทและแอปต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม
ฟีเจอร์ Live Translation ที่ผสานกับ Apple Intelligence ช่วยให้การสื่อสารข้ามภาษาง่ายและลื่นไหลมากขึ้น โดยรองรับการแปลข้อความใน Messages, การแปลคำบรรยายสดใน FaceTime และการแปลเสียงพูดขณะโทรศัพท์ ซึ่งทั้งหมดนี้ประมวลผลแบบออฟไลน์บนอุปกรณ์เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
บริการและแอปพลิเคชันที่ดีขึ้นบน iPhone
Apple Music
Apple Music ใน iOS 26 ได้รับฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างที่ช่วยให้การฟังเพลงมีความสนุกและเข้าถึงได้ลึกซึ้งขึ้น เช่น การแปลเนื้อเพลงและการออกเสียงเนื้อเพลงเพื่อให้ผู้ใช้สามารถร้องตามได้อย่างถูกต้อง, ระบบ Automix ที่ใช้ AI เพื่อผสมเพลงอย่างลื่นไหลเหมือนดีเจ, และ Music Pins ที่ช่วยปักหมุดศิลปิน, อัลบั้ม หรือเพลย์ลิสต์โปรดไว้บนสุดของห้องสมุดเพลง
ประสบการณ์การเล่นเกมบน iPhone และ Mac ที่ดียิ่งขึ้น
Apple เปิดตัวแอป Games ใหม่บน iOS และ macOS ที่รวบรวมเกมทั้งหมดไว้ในที่เดียว พร้อมแบ่งแท็บสำหรับ Apple Arcade และแสดงกิจกรรมอัปเดตหรืออีเวนต์สำคัญ ทำให้ผู้เล่นสามารถค้นหาและเข้าถึงเกมโปรดได้ง่ายขึ้น
ฟีเจอร์ Challenges ช่วยเพิ่มความสนุกด้วยการแข่งขันระหว่างเพื่อนผ่านคะแนนในเกมยอดนิยม เช่น Throne Fall หรือ State of New York และสำหรับนักพัฒนา ฟีเจอร์นี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเกมผู้เล่นเดี่ยวเพื่อสร้างการแข่งขันได้เช่นกัน
บน macOS Tahoe ยังมีการปรับปรุง Metal 4 เพื่อรองรับเทคโนโลยีการเรนเดอร์ขั้นสูง เช่น Frame Interpolation และ Denoising รวมถึงการเปิดตัวเกมใหม่ ๆ ที่ใช้ประสิทธิภาพของ Apple Silicon อย่าง Crimson Desert และ Enzoi ที่เน้นเรื่องกราฟิกและ AI
tvOS 26 นำดีไซน์ Liquid Glass มาสู่ Apple TV และแอป Apple TV ด้วยการปรับปรุงไอคอนและการแสดงผลที่สดใสและมีมิติ พร้อมด้วยการออกแบบแถบควบคุมที่โปร่งใส ช่วยให้การดูหนังและรายการโปรดไม่ถูกบดบัง
แอป Apple TV ยังเพิ่มความสามารถในการจัดการโปรไฟล์ผู้ใช้ ทำให้สมาชิกในครอบครัวสามารถเลือกโปรไฟล์ของตนเองได้ทันทีที่เปิดเครื่อง และสำหรับ Apple Music Sing ฟีเจอร์ร้องคาราโอเกะก็ได้รับการพัฒนาให้ใช้ iPhone เป็นไมโครโฟนและสามารถร่วมร้องกับเพื่อน ๆ ได้ง่ายขึ้น
Continuity ยังได้รับการพัฒนาโดยนำ Live Activities มาใช้งานบน Mac และเพิ่มแอปโทรศัพท์ที่ซิงค์ข้อมูลจาก iPhone ช่วยให้การโทรและการจัดการรายการโทรศัพท์ทำได้สะดวกบน Mac
Shortcuts บน Mac ก็ถูกพัฒนาให้สามารถทำงานอัตโนมัติได้มากขึ้น พร้อมกับการผสาน Apple Intelligence เพื่อสร้างทางลัดที่ทรงพลัง เช่น การสรุปข้อความหรือสร้างภาพ และ Spotlight ที่อัปเดตใหญ่ที่สุด ช่วยให้ค้นหาไฟล์ แอป และทำงานต่าง ๆ ได้รวดเร็วและสะดวกด้วยคีย์ลัด
แอป Files ได้รับการปรับปรุงด้วยมุมมองแบบรายการที่ปรับขนาดได้, โฟลเดอร์ที่ยุบ/ขยายได้ และการตั้งค่าโฟลเดอร์ด้วยสีและสัญลักษณ์เพื่อความเป็นระเบียบ รวมถึงการลากวางโฟลเดอร์ไปยัง Dock เพื่อการเข้าถึงที่รวดเร็ว
Preview แอปสำหรับดูและแก้ไขไฟล์ PDF จาก macOS ถูกนำมาสู่ iPadOS พร้อมเครื่องมือที่รองรับ Apple Pencil และการเติมแบบฟอร์มอัตโนมัติ ช่วยให้ทำงานกับไฟล์ PDF ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก
สำหรับอนาคต คงต้องจับตาดูว่าเทคโนโลยี AI และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์นี้จะนำไปสู่การปฏิวัติวิธีการสื่อสาร, การสร้างสรรค์ และการทำงานในโลกดิจิทัลอย่างไรบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ Apple กำลังวางรากฐานสำหรับยุคใหม่ของความชาญฉลาดที่เป็นส่วนตัวและมีมนุษยธรรมอย่างแท้จริง
คำศัพท์เฉพาะทางที่น่าสนใจ
Apple Intelligence: ระบบปัญญาประดิษฐ์ของ Apple ที่ผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของ Apple
Foundation Models Framework: กรอบการทำงานที่ให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ทำงานแบบออฟไลน์บนอุปกรณ์ได้
วงการเทคโนโลยีกำลังจับตามองการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ เมื่อ Apple ยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที ประกาศความร่วมมือกับ Anthropic เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม AI สำหรับการเขียนโปรแกรมโดยเฉพาะ