ดร.อภิวดี ปิยธรรมรงค์ (Senior Researcher NECTEC) อธิบายว่า จากการศึกษาเรื่อง AI Standard เมื่อปีที่แล้ว พบว่ามาตรฐานด้าน AI นั้นจะเกิดขึ้นได้ ต้องทำความเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แล้วพบว่ามันส่งผลต่อนักพัฒนาและผู้ใช้หลายประการ
สิ่งที่ทำให้ต้องสนใจเรื่องนี้คือ AI ACT หรือร่างกฎหมายที่เปิดให้รับฟังความคิดเห็น และคาดว่าจะประกาศใช้งานภายในปี 2024 ที่มีผลกระทบต่อผู้พัฒนาทั่วโลก ว่าจะเอา AI ไปใช้งานอย่างไรในองค์กรตัวเอง
ทำให้นักพัฒนาทั่วโลกลุกฮือ ไม่พอใจ หรือมีข้อกังวลเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่ออกมา ทั้งที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พูดถึงมาตรฐาน AI
เรื่องนี้โด่งดังมาตั้งแต่ปี 2016 ที่ผู้คนเริ่มทำความเข้าใจมาตรฐาน AI ที่พูดเรื่องการทำความเข้าใจ AI ด้านต่างๆ รัฐบาลทั่วโลกก็ให้ความสนใจ เกิดเป็นการตั้งรับว่าจะรับมือกับ AI เพื่อปกป้องประชาชนอย่างไรบ้าง
ย้อนกลับไปที่ AI ACT มีไว้เพื่อตัดสินว่า AI นั้นมีความเสี่ยงระดับใด
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการสร้าง AI ที่เป็นนวัตกรรมของไทยเอง ถ้าไม่มี AI ที่เป็นภาษาไทย จะพึ่งพาแต่เทคโนโลยีของต่างประเทศเท่านั้น ย่อมไม่สามารถสู้ต่างชาติได้
ส่งเสริมธุรกิจและการใช้ AI
ทำให้ GDP สูงขึ้น ทำให้ทุกคนเข้าถึง AI ที่ปลอดภัย ช่วยยกระดับชีวิตให้ได้
เกิดการบูรณาการจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและเอกชน เกิดระบบวิเคราะห์เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาความยากจนแบบชี้เป้า (TP Map) และเกิดเครือข่ายแพลตฟอร์มบริหารจัดการข้อมูลเปิดด้านการแพทย์ (Medical AI Data Sharing)
เจาะลึกการเข้าซื้อ Windsurf IDE ของ OpenAI เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาด AI Coding ท่ามกลางการแข่งขันดุเดือดจาก Google และ Anthropic พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มและบทบาทของ Windsurf ในตลาดองค์กร