สนามรบ AI ในจีนตอนนี้เปรียบได้กับ "สงครามแห่งร้อยแบบจำลอง" (War of a Hundred Models) จริงๆ นี่คือการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีเดิมที่เรารู้จักกันดีอย่าง Baidu, Alibaba, Tencent และ Huawei (กลุ่ม BATX) กับกลุ่มสตาร์ทอัพดาวรุ่งที่ถูกขนานนามว่า "พยัคฆ์ AI สายเลือดใหม่" ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้การกำกับและส่งเสริมจากรัฐบาล ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางอุตสาหกรรม

คำถามสำคัญที่เราจะเจาะดูกันในวันนี้คือ ในสมรภูมินี้ โมเดลภาษา (LLM) ของจีนยืนอยู่จุดไหนเมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับโลกอย่าง OpenAI, Google หรือ Meta? และพวกเขามีทีเด็ดอะไรซ่อนไว้บ้าง

ยักษ์ใหญ่ลงสนาม vs. พยัคฆ์สายเลือดใหม่

ภูมิทัศน์ของจีนแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองกลุ่มชัดเจน กลุ่มแรกคือ ยักษ์ใหญ่ดั้งเดิม (BATX) บริษัทเหล่านี้มีแต้มต่อมหาศาล พวกเขามีโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว อย่างเช่น Alibaba Cloud และ Baidu AI Cloud แถมยังมีคลังข้อมูลผู้ใช้ขนาดมหึมา กลยุทธ์หลักของพวกเขาคือการนำเสนอ LLM ในรูปแบบบริการ (Models-as-a-Service หรือ MaaS) บนแพลตฟอร์มคลาวด์ของตนเอง อย่าง Baidu AI Cloud ก็ครองส่วนแบ่งตลาด LLM ที่ใหญ่ที่สุดในจีนไปแล้ว พวกเขาไม่เพียงสร้างรายได้ใหม่ แต่ยังเป็นการสร้าง "กำแพง" ล้อมลูกค้าให้อยู่ในระบบนิเวศของตัวเอง

กลุ่มที่สองคือ "พยัคฆ์ AI สายเลือดใหม่" หรือที่บางคนเรียกว่า "หกมังกรน้อย" กลุ่มนี้รวมถึงสตาร์ทอัพที่มาแรงอย่าง DeepSeek, Zhipu AI, Moonshot AI, Baichuan AI, MiniMax และ 01.AI แม้จะเล็กกว่า แต่บริษัทเหล่านี้คล่องตัวสูงและเป็นผู้สร้างนวัตกรรมที่น่าทึ่ง

จุดที่น่าสนใจคือการปรับตัวของเหล่าสตาร์ทอัพ ในช่วงแรก หลายบริษัทตั้งเป้าสร้างโมเดลอเนกประสงค์เพื่อชนกับ OpenAI ตรงๆ แต่เมื่อเจอกับสงครามราคาในประเทศ และความลังเลของภาคธุรกิจที่จะจ่ายแพง พวกเขาเริ่มปรับกลยุทธ์ หันไปเจาะตลาดเฉพาะทางมากขึ้น อย่าง Baichuan ที่มุ่งเน้นภาคการเงินและการดูแลสุขภาพ หรือ MiniMax ที่หันไปบุกตลาดผู้บริโภคในสหรัฐฯ ด้วยแอปแชท "Talkie" นี่แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและการมองหาช่องว่างใหม่ๆ ที่น่าจับตามอง

ส่องคลังอาวุธ: 4 กลยุทธ์หลักจาก 4 ผู้เล่นเด่น

เมื่อเจาะดูลึกขึ้น เราจะเห็นว่าผู้เล่นหลักแต่ละรายมีกลยุทธ์การต่อสู้ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:

ByteDance (Doubao/Byteplus): กลยุทธ์สองแนวรบ

ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ใช้กลยุทธ์จู่โจมสองแนวรบ แนวรบแรกคือตลาดผู้บริโภค พวกเขาส่งแชทบอท Doubao (โต้วเปา) ลงสนาม ซึ่งมีรายงานว่ามียอดดาวน์โหลดแซงหน้า Ernie Bot ของ Baidu ในจีนไปแล้ว สะท้อนความเชี่ยวชาญในการทำผลิตภัณฑ์ให้โดนใจคนหมู่มาก

แนวรบที่สองคือตลาดองค์กร ผ่าน Byteplus (สำหรับตลาดต่างประเทศ) และ Volcano Engine (บริการคลาวด์ในจีน) หัวใจคือตระกูลโมเดล "Seed" ที่ทำได้หลากหลายมิติ (multimodal) ไม่ว่าจะเป็น Seedream สำหรับสร้างภาพ หรือ Seedance สำหรับสร้างวิดีโอ และอาวุธลับของพวกเขาคือ การตั้งราคาที่ดุดัน โดยตั้งราคาโมเดล Doubao ต่ำกว่าคู่แข่งจากตะวันตกอย่างชัดเจน เป็นกลยุทธ์ที่ตั้งใจมาครองตลาดด้วยความเป็นผู้นำด้านต้นทุน

Alibaba (Qwen): พลังแห่งโอเพนซอร์ส

Alibaba Cloud ส่งตระกูลโมเดล Qwen (ทงอี้ เชียนเวิ่น) เข้าแข่งขัน โมเดลเรือธงอย่าง Qwen 2.5-Max ก็ทำผลงานได้ดีในเวทีโลก แต่กลยุทธ์หลักของ Alibaba คือการเน้น โอเพนซอร์ส พวกเขาปล่อยโมเดลหลายขนาด ตั้งแต่เล็กจิ๋วไปจนถึง 72 พันล้านพารามิเตอร์ แนวทางนี้คล้ายกับกลยุทธ์ Llama ของ Meta ที่ได้ผลดีมาก การเปิดกว้างนี้ช่วยสร้างชุมชนนักพัฒนาที่แข็งแกร่ง และท้ายที่สุดก็ดึงดูดการใช้งานบริการคลาวด์ของตัวเอง ด้วยลูกค้าองค์กรกว่า 90,000 ราย Alibaba ถือเป็นผู้นำการใช้งาน LLM ในภาคธุรกิจจีนอย่างแท้จริง

Huawei (Pangu): ผู้เชี่ยวชาญแห่งโลกอุตสาหกรรม

Huawei เลือกเส้นทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง แทนที่จะกระโจนเข้าสู่สงครามแชทบอทอเนกประสงค์ Huawei กลับมุ่งเน้นการพัฒนาโมเดล "ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง" สำหรับภาคอุตสาหกรรมหนัก อย่างเช่น ภาครัฐ การเงิน การผลิต เหมืองแร่ และอุตุนิยมวิทยา

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Pangu Weather Model ที่สามารถพยากรณ์เส้นทางพายุไต้ฝุ่นได้แม่นยำและเร็วกว่าวิธีดั้งเดิมมาก นี่คือการสร้างมูลค่าที่จับต้องได้ให้ลูกค้าองค์กร และที่สำคัญ กลยุทธ์นี้เชื่อมโยงโดยตรงกับธุรกิจฮาร์ดแวร์ของ Huawei โมเดล Pangu ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีที่สุดบนหน่วยประมวลผล AI Ascend ที่พวกเขาพัฒนาขึ้นเอง ในยุคที่ถูกจำกัดการเข้าถึงชิปจากสหรัฐฯ นี่คือการสร้างระบบนิเวศที่พึ่งพาตนเองได้ และเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างยิ่ง

DeepSeek: ม้ามืดผู้ทลายกำแพง "Scale"

ถ้ามี "ม้ามืด" ในการแข่งครั้งนี้ DeepSeek คือตัวจริง พวกเขาสร้างผลงานระดับ State-of-the-art ที่น่าทึ่ง โมเดลอย่าง DeepSeek-V3 สามารถทำคะแนนบนเบนช์มาร์ก MMLU ได้ทัดเทียมหรือเกือบเท่ากับ GPT-4, Llama 3.1 และ Claude 3.5 Sonnet

แต่เรื่องที่ช็อกวงการยิ่งกว่าคือ ความคุ้มค่า มีรายงานว่า DeepSeek-V3 ใช้ต้นทุนในการฝึกฝนน้อยกว่าโมเดลตะวันตกที่มีขนาดใกล้เคียงกันอย่างมาก โดยอาศัยสถาปัตยกรรม MoE ที่มีประสิทธิภาพสูง นี่คือการท้าทายกระบวนทัศน์ที่ว่า "ขนาดคือทุกสิ่ง" (scale is all you need) และพิสูจน์ว่าสถาปัตยกรรมและข้อมูลที่เหนือกว่า สามารถลบจุดด้อยด้านทรัพยากรได้ การที่ DeepSeek มุ่งมั่นปล่อยโมเดลโอเพนซอร์สที่ทรงพลังออกมาต่อเนื่อง ทำให้พวกเขากลายเป็นขวัญใจนักพัฒนาทั่วโลก

ตารางสรุปโมเดลภาษาของจีน

บริษัท

ชื่อแบบจำลอง

พารามิเตอร์

สถาปัตยกรรม

จุดเด่น

ByteDance

Doubao Series

ไม่เปิดเผย

ไม่เปิดเผย

การเจาะตลาดผู้บริโภค, ราคาแข่งขัน

Alibaba

Qwen 2.5-Max

ไม่เปิดเผย

MoE

โอเพนซอร์ส, ประสิทธิภาพสูง, หลายภาษา

Huawei

Pangu 5.5 / Ultra

718B (MoE) / 135B

MoE / Dense

เฉพาะอุตสาหกรรม, ร่วมฮาร์ดแวร์ Ascend

DeepSeek

DeepSeek-V3 / R1

671B

MoE

ประสิทธิภาพสูง, คุ้มค่า, การให้เหตุผล

Zhipu AI

GLM-4.5

355B

MoE

การเขียนโค้ด, Agentic Tasks

Baichuan

Baichuan 3

>1T

ไม่เปิดเผย

Context ยาวพิเศษ

Moonshot AI

Kimi

ไม่เปิดเผย

ไม่เปิดเผย

Context ยาวพิเศษ, แชทบอทยอดนิยม

ปิดช่องว่าง: เมื่อคะแนนเบนช์มาร์กไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

นี่คือหัวใจสำคัญ: ประสิทธิภาพของจีนเทียบกับโลกเป็นอย่างไร?

คำตอบคือ ช่องว่างด้านประสิทธิภาพได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ถ้าในปี 2023 โมเดลจากสหรัฐฯ ยังนำอยู่ชัดเจน แต่ในช่วงปลาย 2024 ถึงปัจจุบัน ช่องว่างบนเบนช์มาร์กสำคัญๆ ได้ลดลงจนแทบจะเท่ากันแล้ว ตารางเปรียบเทียบแสดงให้เห็นว่าคะแนน MMLU (วัดความรู้) ของ DeepSeek-V3 (88.5) แทบจะหายใจรดต้นคอ Llama 3.1 (88.6) หรือในด้านคณิตศาสตร์ GLM-4.5 ของ Zhipu ก็ทำคะแนนได้ในระดับที่แข่งขันกับโมเดลสูงสุดของโลกได้

แต่ตัวเลขก็ไม่ใช่ทุกอย่าง เมื่อเรามองเชิงคุณภาพ เราจะเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนที่ชัดเจน:

  • จุดแข็ง: ความคุ้มค่าคืออาวุธร้ายแรง อย่างที่เห็นจาก DeepSeek และ ByteDance พวกเขาสามารถพัฒนาโมเดลที่ทรงพลังในต้นทุนที่ต่ำกว่าตะวันตกมาก นอกจากนี้ "สงครามร้อยโมเดล" ยังบีบให้เกิดการพัฒนาที่รวดเร็วและมุ่งเน้นการใช้งานจริง (เช่น Pangu ของ Huawei)

  • จุดอ่อน (และความท้าทายใหญ่): นั่นคือ การเซ็นเซอร์ข้อมูล นี่คือประเด็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โมเดลจีนถูกฝึกบนข้อมูลที่ผ่านการกรองและต้องหลีกเลี่ยงหัวข้อที่ละเอียดอ่อน (เช่น เหตุการณ์ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน)

การ "ดัดทอน" (lobotomization) นี้ อาจจำกัดความสามารถในการให้เหตุผลอย่างอิสระและเชิงวิพากษ์อย่างรุนแรง เรื่องนี้อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือสำหรับการใช้งานในระดับโลก แม้ว่าคะแนนเบนช์มาร์กจะไล่ทันกันแล้ว แต่มันอาจเป็นสัญญาณว่าเบนช์มาร์กเหล่านี้กำลังจะ "อิ่มตัว" และไม่สามารถใช้วัดความสามารถที่แท้จริงได้อีกต่อไป สนามแข่งต่อไปอาจอยู่ที่ความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ ซึ่งเป็นจุดที่ผลกระทบจากการเซ็นเซอร์อาจกลายเป็นข้อเสียเปรียบสำคัญ

อนาคตของ AI จีน: พึ่งพาตนเอง หรือ ถูกแบ่งแยก?

ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อความทะเยอทะยานด้าน AI ของจีน ไม่ใช่คู่แข่ง แต่คือ การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ การควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง (อย่าง GPU ของ NVIDIA) โดยสหรัฐฯ สร้างแรงกดดันมหาศาลต่อการฝึกโมเดลขนาดใหญ่รุ่นต่อไป

เพื่อตอบโต้ จีนเร่งผลักดันการพัฒนาฮาร์ดแวร์ของตนเองเต็มกำลัง เราจึงเห็น Huawei สร้างระบบนิเวศทั้งหมดบนชิป Ascend ของตัวเอง Baidu ก็มีชิป Kunlun 3 นี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ว่าฮาร์ดแวร์ที่ผลิตในประเทศจะก้าวทันเทคโนโลยีล้ำสมัยจาก NVIDIA ได้หรือไม่

ในขณะเดียวกัน สถานะของจีนในเวทีโลกก็มีสองด้าน ด้านหนึ่ง บริษัทจีนเป็นผู้เล่นสำคัญในชุมชนโอเพนซอร์ส (Alibaba, DeepSeek) แต่อีกด้านหนึ่ง การเซ็นเซอร์ภายในก็สร้างอุปสรรคต่อความน่าดึงดูดใจในตลาดตะวันตก ภูมิทัศน์ AI โลกจึงมีความเสี่ยงที่จะแบ่งออกเป็นสองระบบนิเวศที่แข่งขันกัน โดยมีมาตรฐานและค่านิยมที่แตกต่างกัน

คำศัพท์เฉพาะทางเพิ่มเติม

  • LLM (Large Language Model): โมเดลภาษาขนาดใหญ่ คือ AI ที่ถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลข้อความมหาศาล เพื่อให้สามารถเข้าใจ สร้าง และโต้ตอบด้วยภาษาที่เหมือนมนุษย์

  • MoE (Mixture-of-Experts): สถาปัตยกรรม "ส่วนผสมของผู้เชี่ยวชาญ" แทนที่จะใช้ "สมอง" ขนาดใหญ่ก้อนเดียว โมเดล MoE จะมี "ผู้เชี่ยวชาญ" เฉพาะทางย่อยๆ จำนวนมาก เมื่อมีคำสั่งเข้ามา ระบบจะเลือกใช้เฉพาะผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ทำให้ประมวลผลได้เร็วและประหยัดต้นทุนกว่ามาก นี่คือเบื้องหลังความสำเร็จของ DeepSeek

  • Context Window (หน้าต่างบริบท): คือปริมาณข้อมูล (เช่น จำนวนคำ หรือ token) ที่ AI สามารถ "จดจำ" หรือประมวลผลได้ในคราวเดียว โมเดลที่มี Context Window กว้างๆ อย่าง Kimi หรือ Baichuan สามารถอ่านเอกสารหนาๆ หรือหนังสือทั้งเล่ม เพื่อสรุปหรือตอบคำถามได้ในครั้งเดียว

  • Benchmark (เบนช์มาร์ก): คือชุดแบบทดสอบมาตรฐานที่ใช้วัดประสิทธิภาพของ AI ในด้านต่างๆ อย่างเช่น MMLU (วัดความรู้ทั่วไป) หรือ SWE-bench (วัดความสามารถในการเขียนโค้ด)

บทวิเคราะห์จาก Insiderly

ยุคที่โลกตะวันตกครองความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพ LLM อย่างชัดเจนได้ สิ้นสุดลงแล้ว ช่องว่างได้ลดลงจนแทบจะเท่าเทียมกันในตัวชี้วัดสำคัญ พรมแดนของ AI ได้กลายเป็นภูมิทัศน์ที่มีหลายขั้วอำนาจ

การแข่งขันในอนาคตจะไม่ใช่แค่การเอาชนะกันเล็กๆ น้อยๆ บนตารางเบนช์มาร์ก แต่จะหันมาให้ความสำคัญกับ ต้นทุน ประสิทธิภาพ และความเร็วในการนำไปใช้ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้ และในยุคใหม่นี้ จุดแข็งของจีนในด้านการประยุกต์ใช้ที่รวดเร็ว การขยายขนาดที่คุ้มค่า และตลาดภายในขนาดใหญ่ ทำให้จีนกลายเป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามอย่างแท้จริง

ทิศทางของจีนชี้ให้เห็นการตระหนักรู้เชิงกลยุทธ์ที่น่าสนใจ: คุณค่าสูงสุดของ AI อาจไม่ได้อยู่ที่การสร้าง AGI (ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป) ที่เก่งที่สุดเพียงหนึ่งเดียว แต่อยู่ที่การปรับใช้เครื่องมือ AI เฉพาะทางที่ คุ้มค่า จำนวนมหาศาล เพื่อฝังลึกเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ

ในขณะที่โลกตะวันตกมักมุ่งเน้นไปที่การสร้าง "สมอง" จีนกลับให้ความสำคัญกับการสร้าง "มือและเท้า" ซึ่งก็คือระบบนิเวศของแอปพลิเคชัน AI ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจริง นี่คือ Key Takeaways ที่เราต้องจับตามอง:

  • ประสิทธิภาพไม่ใช่คูเมืองอีกต่อไป: เมื่อโมเดลจีนอย่าง DeepSeek หรือ Qwen มีประสิทธิภาพทัดเทียมระดับโลก ธุรกิจทั่วโลกไม่สามารถสันนิษฐานได้อีกแล้วว่าโมเดลตะวันตก "ดีกว่า" เสมอไป การแข่งขันจะย้ายไปอยู่ที่ปัจจัยอื่น

  • สงครามราคาคืออาวุธใหม่: ความสำเร็จของ DeepSeek และกลยุทธ์ของ ByteDance พิสูจน์ว่าประสิทธิภาพระดับสูงสามารถมาในราคาที่ต่ำกว่ามาก นี่จะสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อโมเดลราคาของ OpenAI, Google และ Anthropic ในตลาดโลก

  • ความเฉพาะทางอาจชนะความทั่วไป: กลยุทธ์ของ Huawei กับ Pangu เป็นสิ่งที่ธุรกิจควรศึกษาอย่างยิ่ง สำหรับภาคอุตสาหกรรม โมเดลที่พยากรณ์อากาศได้แม่นยำ 100% หรือตรวจจับความผิดพลาดในโรงงานได้ มีมูลค่าสูงกว่าแชทบอทที่เขียนกลอนได้

  • สมรภูมิที่แท้จริงคือ "ฮาร์ดแวร์": อนาคตของ AI จีนทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการต่อสู้กับการคว่ำบาตรชิป หากระบบนิเวศ Ascend ของ Huawei ประสบความสำเร็จในการพึ่งพาตนเอง จีนจะกลายเป็นคู่แข่งที่ไร้จุดอ่อนด้านอุปทาน แต่หากล้มเหลว พวกเขาอาจชนเพดานทางเทคโนโลยี

  • เงาของการเซ็นเซอร์: นี่คือความเสี่ยงที่ยังคงอยู่ การ "ดัดทอน" ไม่เพียงจำกัดความน่าเชื่อถือในตลาดโลก แต่ยังอาจเป็นข้อจำกัดที่มองไม่เห็นต่อความสามารถในการให้เหตุผลเชิงวิพากษ์ขั้นสูง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ AI ในอนาคต

  • กลยุทธ์ "มือและเท้า" คือเกมเปลี่ยนโลก: นี่คือภัยคุกคามเชิงกลยุทธ์ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับโลกตะวันตก จีนไม่ได้แค่สร้าง AI แต่กำลังสร้าง "เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI" ในระยะยาว ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการฝัง AI เข้าไปในโครงสร้างเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม อาจเป็นผู้ชนะที่แท้จริง ไม่ใช่ประเทศที่ชนะแค่การแข่งขันบนตารางคะแนนเบนช์มาร์ก

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. (PDF) A Review of Large Language Models (LLMs) Development: A Cross-Country Comparison of the US, China, Europe, UK, India, Japan, South Korea, and Canada - ResearchGate
    https://www.researchgate.net/publication/391195730_A_Review_of_Large_Language_Models_LLMs_Development_A_Cross-Country_Comparison_of_the_US_China_Europe_UK_India_Japan_South_Korea_and_Canada

  2. Clash of the Tech Titans - Third Way
    https://www.thirdway.org/report/clash-of-the-tech-titans

  3. Mapping the AI sector in China. Full list of Chinese AI companies. The sector is much smaller than the US. - Glass.AI
    https://glassai.medium.com/mapping-the-ai-sector-in-china-it-is-much-smaller-than-the-us-and-similar-in-size-to-the-uk-3559f785cbee

  4. Artificial intelligence industry in China - Wikipedia
    https://en.wikipedia.org/wiki/Artificial_intelligence_industry_in_China

  5. This is the state of generative AI in China - The China Project
    https://thechinaproject.com/2023/09/20/this-is-the-state-of-generative-ai-in-china/

  6. Forbes 2025 AI 50 List - Top Artificial Intelligence Companies Ranked
    https://www.forbes.com/lists/ai50/

  7. Top 6 Chinese AI Models Like DeepSeek (LLMs) You Should Know - Index.dev
    https://www.index.dev/blog/chinese-ai-models-deepseek

  8. China's AI Policy & Development: What You Need to Know | FiscalNote
    https://fiscalnote.com/blog/china-ai-policy-development-what-you-need-to-know

Reply

or to participate

Recommended for you

No posts found