สำรวจวิสัยทัศน์ Anthropic ในการพัฒนา AI agents ทรงพลัง พร้อมเปิดตัว Claude 4 Opus และ Sonnet ที่ช่วยนักพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและนวัตกรรมองค์กรอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิผล
สำรวจความก้าวหน้าของ Claude 4 รุ่นใหม่ Opus และ Sonnet ที่พัฒนา AI Agent ให้ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความจำยาวนาน การคิดวิเคราะห์ และการทำตามคำสั่งซับซ้อน
Microsoft Build 2025 | Satya Nadella Opening Keynote: ก้าวสู่ยุค AI และเว็บเอเจนท์เปิดเผย
สำรวจวิสัยทัศน์และนวัตกรรม AI จาก Satya Nadella ในงาน Microsoft Build 2025 กับการเปิดตัว AI Coding Agents, Microsoft 365 Copilot และ Azure AI Foundry ที่เปลี่ยนโฉมการพัฒนาแอปและองค์กรสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว
ในงาน Microsoft Build 2025 ที่จัดขึ้น ณ ซีแอตเทิล Satya Nadella CEO ของไมโครซอฟท์ได้เปิดเผยวิสัยทัศน์และนวัตกรรมล่าสุดที่เปลี่ยนแปลงวิธีการพัฒนาแอปพลิเคชันและการทำงานร่วมกับ AI ในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น งานนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านของแพลตฟอร์มไปสู่ "เว็บเอเจนท์" ที่เปิดกว้างและขยายตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการสร้างแอป AI ในระดับองค์กรและนักพัฒนาทั่วโลก
วิวัฒนาการของเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาและ AI Coding Agents
นอกจากนี้ Copilot Studio ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง AI Agents ได้ง่ายขึ้นด้วยโค้ดน้อย ๆ รวมถึงการเชื่อมต่อกับ MCP Servers เพื่อดึงข้อมูลสำคัญมาใช้ในงานต่างๆ เช่น การตอบ RFP หรือการตรวจสอบความสอดคล้องกับนโยบายขององค์กร
อีกนวัตกรรมที่น่าสนใจคือ Copilot Tuning ที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับแต่งโมเดล AI ให้สอดคล้องกับสไตล์และความรู้เฉพาะของบริษัท เช่น การสร้างเอกสารทางกฎหมายที่เหมาะกับโทนและเนื้อหาของบริษัทนั้นๆ
Azure AI Foundry: โรงงานผลิตเอเจนท์สำหรับยุค AI
Foundry คือแพลตฟอร์มที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้างและจัดการ AI Agents ในระดับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับโมเดล AI กว่า 1,900 โมเดล รวมถึงการจัดการทรัพยากรและการประมวลผลแบบครบวงจร
Foundry ยังรองรับการทำงานแบบ Multi-Agent Orchestration ที่ช่วยประสานงานเอเจนท์หลายตัวเข้าด้วยกันในกระบวนการทำงานที่ซับซ้อน เช่น การดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล Stanford Medicine ที่ใช้ AI เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อช่วยในการตัดสินใจรักษา
การจัดการความปลอดภัยและการควบคุมสิทธิ์ของเอเจนท์ก็เป็นสิ่งที่ Foundry ให้ความสำคัญ โดยเชื่อมต่อกับระบบจัดการตัวตนอย่าง Entra และผสานกับระบบความปลอดภัยอย่าง Microsoft Defender เพื่อป้องกันภัยคุกคามต่างๆ
Foundry Local และ Windows AI Foundry: AI บน Edge และเครื่องลูกข่าย
ไมโครซอฟท์ประกาศ Foundry Local ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถรันโมเดล AI และเอเจนท์ต่างๆ บนเครื่องลูกข่ายได้อย่างรวดเร็ว รองรับระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac พร้อม CLI สำหรับพัฒนาแอปในเครื่อง
Windows AI Foundry ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งาน AI อย่างเต็มรูปแบบบน Windows ตั้งแต่ CPU, GPU, NPU จนถึงคลาวด์ โดยมีโมเดลที่ปรับแต่งได้และรองรับการใช้งานแบบ LoRa adapter เพื่อให้เหมาะสมกับงานเฉพาะด้าน
การเปลี่ยนแปลงของโลก AI ผ่านสายตา Kevin Scott, CTO ของ Microsoft
Kevin Scott ได้ให้ภาพรวมของ "เว็บเอเจนท์" ที่เป็นระบบเปิดและเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งประกอบด้วยชั้นของเอเจนท์ที่หลากหลายและชั้นการรันไทม์ที่รองรับความสามารถในการประมวลผลและเหตุผลของโมเดล AI
เขาย้ำว่าโมเดล AI ในปัจจุบันมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์มากกว่าที่เรานำมาใช้จริง และกระตุ้นให้นักพัฒนาตั้งเป้าหมายสูงขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพนี้
Kevin ยังกล่าวถึงโปรโตคอล MCP ที่เป็นมาตรฐานสำหรับการสื่อสารระหว่างเอเจนท์และบริการต่างๆ เช่นเดียวกับ HTTP สำหรับเว็บไซต์ พร้อมเปิดตัว NLWeb โอเพนซอร์สเฟรมเวิร์กที่ช่วยให้เว็บไซต์ทั่วไปกลายเป็นแอป AI agentic ได้อย่างง่ายดาย
การจัดการข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ครอบคลุม
ในส่วนของข้อมูล ไมโครซอฟท์ได้รวม Cosmos DB เข้ากับ Foundry เพื่อรองรับการจัดเก็บและเรียกใช้ข้อมูลในแอป AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการนำ Azure Databricks และ Microsoft Fabric มาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียว
Power BI ได้รับการอัปเกรดด้วย Copilot ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถามตอบและวิเคราะห์ข้อมูลได้ด้วยภาษาธรรมชาติผ่านแชทอินเทอร์เฟซ
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ไมโครซอฟท์ร่วมมือกับ NVIDIA เปิดตัวระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่ใช้ GPU รุ่นล่าสุด GV100 บน Azure พร้อมด้วยระบบเครือข่าย AI WAN ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับการประมวลผล AI ขนาดใหญ่ในระดับโลก
อีกตัวอย่างที่น่าประทับใจคือการใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Azure ของ Met Office ในสหราชอาณาจักร ที่ช่วยทำนายสภาพอากาศและสภาพภูมิอากาศด้วยความแม่นยำสูงและความน่าเชื่อถือ
Microsoft Discovery: ปฏิวัติการวิจัยด้วย AI สำหรับวงการวิทยาศาสตร์
Microsoft Discovery คือแพลตฟอร์มที่ช่วยนักวิจัยในวงการวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมต่างๆ เร่งการค้นคว้าวิจัยผ่านการใช้ AI Agents ที่ทำงานร่วมกันในวงจรการวิจัย ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล วิจัยเชิงลึก สร้างสมมติฐาน และทดลองใน HPC (High-Performance Computing)
การเปิดตัวและการพัฒนาของ Microsoft Build 2025 ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน AI และการสร้างเว็บเอเจนท์แบบเปิด ซึ่งไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนวิธีการพัฒนาแอปพลิเคชัน แต่ยังเปลี่ยนวิธีที่มนุษย์และเครื่องจักรทำงานร่วมกันอย่างลึกซึ้ง
การนำ AI เข้ามาเป็น "เพื่อนร่วมทีม" ในการเขียนโค้ดและจัดการงานต่างๆ ช่วยให้นักพัฒนามีประสิทธิภาพสูงขึ้นและสร้างสรรค์นวัตกรรมได้รวดเร็วกว่าเดิม ในขณะเดียวกัน Microsoft 365 Copilot และ Azure AI Foundry ก็เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและปรับใช้ AI ได้อย่างกว้างขวางในทุกภาคส่วนขององค์กร
สุดท้าย Microsoft Discovery แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการปฏิวัติวงการวิทยาศาสตร์และการวิจัย ซึ่งจะช่วยเร่งให้เกิดการค้นพบใหม่ๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงโลกได้ในอนาคต
ในยุคที่ AI และเว็บเอเจนท์เติบโตอย่างรวดเร็วนี้ เราทุกคนจึงควรพร้อมที่จะเรียนรู้ ปรับตัว และใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับสังคมและธุรกิจในทุกมิติ
คำศัพท์เฉพาะทางที่น่าสนใจ
AI (Artificial Intelligence): ปัญญาประดิษฐ์ ระบบที่สามารถแสดงพฤติกรรมเหมือนมนุษย์ เช่น การเรียนรู้และการตัดสินใจ
Agentic Web: เว็บที่มีเอเจนท์หรือผู้ช่วย AI ทำงานแทนผู้ใช้และประสานงานระหว่างบริการต่างๆ
GitHub Copilot: AI Coding Assistant ที่ช่วยเขียนโค้ดและแก้ไขโปรแกรมอัตโนมัติ
MCP (Model Context Protocol): โปรโตคอลสำหรับเชื่อมต่อและสื่อสารระหว่าง AI Agents และบริการต่างๆ อย่างปลอดภัย
สำรวจวิสัยทัศน์ Anthropic ในการพัฒนา AI agents ทรงพลัง พร้อมเปิดตัว Claude 4 Opus และ Sonnet ที่ช่วยนักพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและนวัตกรรมองค์กรอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิผล