สำรวจวิสัยทัศน์และนวัตกรรม AI จาก Satya Nadella ในงาน Microsoft Build 2025 กับการเปิดตัว AI Coding Agents, Microsoft 365 Copilot และ Azure AI Foundry ที่เปลี่ยนโฉมการพัฒนาแอปและองค์กรสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว
สำรวจการเปิดตัว Gemini 2.5 Pro โมเดล AI ล้ำสมัย พร้อมโครงสร้างพื้นฐาน TPU Ironwood และนวัตกรรม AI จาก Google I/O 2025 ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกเทคโนโลยีและการใช้งาน AI ในชีวิตประจำวัน
มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในหน่วยงาน AI ของ Apple ที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่ Apple ได้ดึงตัวผู้บริหารระดับสูงจาก Google มาตั้งแต่ปี 2018 เพื่อมารับผิดชอบด้าน AI
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขากำลังถูกถอดบทบาทบางส่วนออกไป จากการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหม่ของ Apple
ลองมาดูการวิเคราะห์จาก Bloomberg ที่ได้อธิบายถึงสถานการณ์ปัจจุบันและทิศทางของ Apple ในการจัดการกับ AI อย่างชัดเจน
ประวัติความเป็นมาของ AI ที่ Apple
ย้อนกลับไปในปี 2011 Apple เปิดตัว Siri ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้ช่วย AI เสียงแรก ๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
แต่หลังจากนั้นไม่นานในช่วงปี 2015-2016 Apple เริ่มตกเป็นฝ่ายตามหลังเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น อย่าง Google Assistant และ Alexa จาก Amazon ที่เปิดตัวและพัฒนาอย่างรวดเร็ว
จนทำให้ Apple ดูเหมือนจะเสียเปรียบในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด
หนึ่งในปัญหาสำคัญที่ Apple เองก็รับรู้ คือการทำงานด้าน AI ภายในบริษัทที่กระจัดกระจายและทำงานในรูปแบบ silo หรือแยกกันทำงานในแต่ละแผนก ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่าง ๆ ซึ่งทำให้การพัฒนา AI ของ Apple ขาดประสิทธิภาพและความต่อเนื่อง
การดึงตัว John Giannandrea จาก Google และความหวังใหม่ของ Apple
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว Apple ได้ตัดสินใจดึงตัว John Giannandrea ผู้บริหารที่ดูแลด้าน AI และบริการ Search ของ Google มาร่วมทีมในปี 2018 โดยตั้งความหวังว่าการรวม AI ทั้งหมดไว้ภายใต้การบริหารของเขาจะช่วยยกระดับความสามารถของ Apple ในด้าน AI และ Machine Learning ให้กลับมาแข่งขันได้ในระดับแนวหน้าของวงการ
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ โดย Apple ยังคงถูกคู่แข่ง AI รายอื่น ๆ อย่าง ChatGPT จาก OpenAI, Google Gemini และ Microsoft Copilot ทิ้งห่างไปมาก
การปรับโครงสร้างใหม่ของหน่วยงาน AI ที่ Apple
เมื่อเห็นว่าการรวมหน่วยงาน AI ไว้ในที่เดียวกันไม่ประสบความสำเร็จ Apple จึงเริ่มกลับไปสู่รูปแบบการจัดองค์กรแบบเดิมที่เน้นความเป็น functional organization หรือแยกหน่วยงานตามหน้าที่เฉพาะ โดยการกระจายหน่วยงาน AI ออกไปยังแผนกต่าง ๆ ภายในบริษัทอีกครั้ง
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Apple ได้ย้าย Siri ออกจากหน่วยงาน AI ไปยังแผนกวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่สมเหตุสมผล เพราะ Siri เป็นซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการต่าง ๆ
นอกจากนี้ Apple ยังได้ย้ายหน่วยงาน Robotics ซึ่งเดิมอยู่ในหน่วย AI ไปยังแผนกวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ เนื่องจาก Robotics เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์เป็นหลัก จึงเหมาะสมที่จะให้ฝ่ายฮาร์ดแวร์รับผิดชอบ
สัญญาณของการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ใน Apple
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า Apple อาจกำลังเตรียมตัวสำหรับโลกที่ไม่มีหัวหน้า AI คนเดียวที่ดูแลทุกอย่างอีกต่อไป
ในมุมมองของผู้คนใน Apple และนักวิเคราะห์หลายฝ่าย การตัดสินใจนี้เป็นการแก้ไขความล้มเหลวในการพัฒนา AI ภายในองค์กรที่เคยถูกคาดหวังว่าจะพลิกโฉมบริษัทให้เป็นผู้นำด้าน AI ในตลาด
นอกจากนี้ Apple ยังต้องเผชิญกับความท้าทายอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อธุรกิจโดยรวม เช่น การจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ขึ้นอยู่กับจีน และความพยายามที่จะย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอินเดียเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเมืองและภาษีศุลกากร
ความคาดหวังจากการรายงานผลประกอบการของ Apple
ในสัปดาห์นี้ Apple จะรายงานผลประกอบการ ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในรายงานที่น่าสนใจที่สุดในช่วงหลัง ๆ
ไม่ใช่เพราะตัวเลขรายได้หรือกำไรที่บริษัทจะประกาศ
แต่เป็นเพราะคำถามและความกังวลที่นักวิเคราะห์จะซักถามจากผู้บริหารของ Apple หลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหน่วยงาน AI และสถานการณ์โลกที่มีความไม่แน่นอนสูง
หนึ่งในประเด็นหลักที่น่าจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยอย่างหนัก คือเรื่อง AI ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันและอนาคต
รวมถึงคำถามเกี่ยวกับนวัตกรรมและทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Apple
บทสรุป: อนาคตของ Apple กับ AI ที่ยังต้องจับตา
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหน่วยงาน AI ของ Apple เป็นสัญญาณชัดเจนว่าบริษัทกำลังปรับตัวอย่างจริงจังเพื่อรับมือกับความท้าทายทั้งภายในและภายนอกองค์กร
การย้าย Siri และ Robotics กลับไปยังแผนกที่เกี่ยวข้องโดยตรงเป็นการตัดสินใจที่สะท้อนถึงความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพและความชัดเจนในการบริหารจัดการ
สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ Apple อาจจะไม่ยึดติดกับโครงสร้างองค์กรแบบรวมศูนย์ในด้าน AI อีกต่อไป ซึ่งอาจเป็นการเปิดโอกาสให้การพัฒนา AI ของบริษัทมีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับความต้องการของแต่ละแผนกได้มากขึ้น
สำหรับผู้ติดตามข่าวสารเทคโนโลยีและแฟน ๆ Apple การรายงานผลประกอบการที่จะมาถึงนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการติดตามว่า Apple จัดการกับความท้าทายเหล่านี้อย่างไร และบริษัทจะสามารถกลับมาแข่งขันในตลาด AI ที่เต็มไปด้วยคู่แข่งที่แข็งแกร่งได้หรือไม่
สุดท้ายนี้ ขอแนะนำให้ทุกคนติดตามข่าวสารและการวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด เพราะการเปลี่ยนแปลงในวงการ AI ของ Apple นี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อบริษัทเท่านั้น
แต่ยังสะท้อนภาพรวมของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลกในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ
สำรวจวิสัยทัศน์และนวัตกรรม AI จาก Satya Nadella ในงาน Microsoft Build 2025 กับการเปิดตัว AI Coding Agents, Microsoft 365 Copilot และ Azure AI Foundry ที่เปลี่ยนโฉมการพัฒนาแอปและองค์กรสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว
เจาะลึกการเข้าซื้อ Windsurf IDE ของ OpenAI เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาด AI Coding ท่ามกลางการแข่งขันดุเดือดจาก Google และ Anthropic พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มและบทบาทของ Windsurf ในตลาดองค์กร