สำรวจวิสัยทัศน์และนวัตกรรม AI จาก Satya Nadella ในงาน Microsoft Build 2025 กับการเปิดตัว AI Coding Agents, Microsoft 365 Copilot และ Azure AI Foundry ที่เปลี่ยนโฉมการพัฒนาแอปและองค์กรสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว
สำรวจการเปิดตัว Gemini 2.5 Pro โมเดล AI ล้ำสมัย พร้อมโครงสร้างพื้นฐาน TPU Ironwood และนวัตกรรม AI จาก Google I/O 2025 ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกเทคโนโลยีและการใช้งาน AI ในชีวิตประจำวัน
แล้วถ้าเรามี AI ที่ช่วยจับโกหกล่ะ? คำตอบคือในปัจจุบันยังไม่มี AI ที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานนี้ แต่มีงานวิจัยที่น่าสนใจโดยทีมงานของ Riccardo Loconte ซึ่งได้ใช้เทคนิคที่เรียกว่า “fine tuning” เพื่อเทรน AI ให้จับโกหกได้ในบางบริบท
“Large language models” หรือโมเดลภาษาใหญ่ คือระบบ AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างข้อความที่เหมือนมนุษย์พูดคุยกัน แต่อย่างไรก็ตาม การทำให้ AI เหล่านี้มีความเชี่ยวชาญในงานเฉพาะ เช่น การจับโกหก ต้องใช้การเทรนเพิ่มเติมที่เจาะจงกว่าการเรียนรู้ทั่วไปเหมือนนักเรียนที่เรียนจบปริญญาตรีแล้วต้องไปเรียนต่อเฉพาะทาง
การเทรน AI ด้วยชุดข้อมูล (Datasets)
การเทรน AI จำเป็นต้องใช้ชุดข้อมูลที่มีทั้งข้อความจริงและข้อความที่โกหก เพื่อให้ AI เรียนรู้ความแตกต่าง อย่างในงานวิจัยนี้ใช้ชุดข้อมูลสามชุดหลัก ได้แก่ ข้อความเกี่ยวกับความคิดเห็นส่วนตัว, ความทรงจำในอดีต และเจตนาในอนาคต
หลังจากเทรน AI ด้วยชุดข้อมูลเหล่านี้แล้ว จะมีการทดสอบ AI ด้วยชุดข้อมูลที่ AI ไม่เคยเห็นมาก่อน เพื่อดูว่า AI สามารถแยกแยะความจริงและโกหกได้ดีแค่ไหน เหมือนการสอบปลายภาคของนักเรียนที่ต้องทำข้อสอบใหม่โดยไม่เคยเห็นข้อสอบนี้มาก่อน
ในงานวิจัยนี้ใช้โมเดลที่ชื่อว่า FLAN-T5 (หรือเรียกเล่นๆ ว่า “Flanny”) ซึ่งเป็นโมเดลภาษาใหญ่ที่พัฒนาโดย Google
ผลการทดลองที่น่าสนใจ
งานวิจัยแบ่งเป็น 3 การทดลองหลัก:
เทรน AI กับชุดข้อมูลแต่ละชุดแยกกัน
เทรน AI กับสองชุดข้อมูลพร้อมกัน แล้วทดสอบกับชุดที่เหลืออีกชุด
แต่ในการทดลองที่สอง โมเดลทำได้แค่ประมาณ 50% เท่านั้น ซึ่งเท่ากับการเดาแบบสุ่ม นี่แสดงให้เห็นว่า AI ยังมีปัญหาในการนำความรู้ที่เรียนจากบริบทหนึ่งไปใช้กับอีกบริบทหนึ่ง เพราะการโกหกนั้นมีลักษณะขึ้นอยู่กับบริบทและสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
โอกาสและความท้าทายในอนาคต
ผลการทดลองชี้ให้เห็นว่า AI สามารถช่วยตรวจจับโกหกได้ดีในบริบทที่ได้รับการเทรนมาดีพอ แต่ยังต้องการการพัฒนาและทดสอบเพิ่มเติมก่อนจะนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังมีความเสี่ยง หากผู้คนเชื่อ AI อย่างไม่ตั้งคำถาม อาจทำให้เกิดการกล่าวหากันโดยไม่มีมูล และทำลายความไว้วางใจในสังคม เพราะการพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์ละเลยการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจด้วยตนเอง
ความสำคัญของความโปร่งใสและการตีความผล AI
สิ่งที่ผู้วิจัยเน้นคือ AI ควรไม่ใช่แค่บอกว่าใครโกหกหรือไม่ แต่ควรอธิบายเหตุผลและหลักฐานที่ทำให้ AI ตัดสินใจเช่นนั้น เหมือนกับรีวิวร้านอาหารที่ไม่ใช่แค่ให้ดาว แต่ยังมีรีวิวบอกว่าจุดเด่นและจุดด้อยของร้านคืออะไร เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้
โลกอนาคตที่น่าจะเป็นคือโลกที่ AI เป็นเครื่องมือเสริมสร้างความเข้าใจและช่วยให้มนุษย์ตัดสินใจได้ดีขึ้น ไม่ใช่เป็นผู้ตัดสินแทนมนุษย์อย่างสิ้นเชิง
ศัพท์เทคนิคที่ควรรู้
Large Language Models (โมเดลภาษาใหญ่): ระบบ AI ที่ถูกเทรนด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างข้อความในรูปแบบที่เหมือนมนุษย์พูด
Fine Tuning (การเทรนเฉพาะทาง): การฝึก AI เพิ่มเติมเพื่อทำงานเฉพาะด้าน โดยใช้ชุดข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง
Dataset (ชุดข้อมูล): ข้อมูลที่ใช้ในการเทรน AI โดยประกอบด้วยตัวอย่างข้อมูลจริงและข้อมูลปลอม (โกหก) เพื่อสอน AI ให้รู้จักแยกแยะ
บทสรุปจาก Insiderly
การใช้ AI ในการตรวจจับความจริงและความเท็จเป็นการก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นและมีศักยภาพสูง ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า AI สามารถทำงานนี้ได้ดีกว่ามนุษย์ในบางบริบท แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการปรับใช้ข้ามบริบทที่แตกต่างกัน
ความท้าทายที่สำคัญคือการรักษาสมดุลระหว่างการใช้ AI เพื่อช่วยในการตัดสินใจและการรักษาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของมนุษย์ ไม่ควรปล่อยให้ AI กลายเป็นผู้ตัดสินแทนทั้งหมด เพราะนั่นอาจนำไปสู่ความเสี่ยงของการสูญเสียความไว้วางใจและการพึ่งพาเทคโนโลยีอย่างไม่ลึกซึ้ง
ดังนั้นอนาคตของ AI ในการตรวจจับโกหกจึงไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของการพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองและกับเทคโนโลยี
การพัฒนา AI ที่โปร่งใส อธิบายเหตุผลได้ และยังคงส่งเสริมให้ผู้ใช้คิดวิเคราะห์เองได้ จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เทคโนโลยีนี้เป็นประโยชน์จริงในสังคม
สำรวจวิสัยทัศน์และนวัตกรรม AI จาก Satya Nadella ในงาน Microsoft Build 2025 กับการเปิดตัว AI Coding Agents, Microsoft 365 Copilot และ Azure AI Foundry ที่เปลี่ยนโฉมการพัฒนาแอปและองค์กรสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว
เจาะลึกการเข้าซื้อ Windsurf IDE ของ OpenAI เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาด AI Coding ท่ามกลางการแข่งขันดุเดือดจาก Google และ Anthropic พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มและบทบาทของ Windsurf ในตลาดองค์กร