เมื่อ AI กลายเป็นที่พึ่งทางอารมณ์: เจาะลึกการใช้ Claude เพื่อสนับสนุนด้านความรู้สึก

เจาะลึกการใช้ AI Claude เพื่อสนับสนุนด้านอารมณ์และความรู้สึก พร้อมการวิจัยและข้อค้นพบเกี่ยวกับการใช้งานจริง ความปลอดภัย และผลกระทบทางจิตใจของผู้ใช้

เมื่อ AI กลายเป็นที่พึ่งทางอารมณ์: เจาะลึกการใช้ Claude เพื่อสนับสนุนด้านความรู้สึก

ในยุคที่เทคโนโลยี AI ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ การพบเห็นข่าวสารที่พูดถึงการใช้ AI chatbot เพื่อให้การสนับสนุนทางอารมณ์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป วิดีโอที่เพิ่งชมจาก Anthropic ซึ่งเป็นองค์กรที่พัฒนา AI ชื่อ Claude ได้เปิดเผยถึงงานวิจัยและการวิเคราะห์เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้ที่หันมาใช้ Claude เพื่อพูดคุยและขอคำแนะนำด้านอารมณ์อย่างจริงจัง งานนี้ไม่ได้ทำขึ้นเพียงเพื่อดูว่าผู้ใช้ต้องการอะไร แต่ยังเป็นการตั้งคำถามถึงความปลอดภัยและความเหมาะสมของการใช้ AI ในบทบาทนี้ด้วย เห็นได้ชัดว่า AI ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางอารมณ์โดยตรง แต่การที่ผู้คนใช้มันในลักษณะนี้ก็เป็นเรื่องที่ Anthropic ต้องทำความเข้าใจและพัฒนาระบบเพื่อรองรับอย่างรับผิดชอบ

Alex แนะนำตัวและบทบาทในทีม Safeguards ของ Anthropic

ความเป็นมาของการวิจัย: เหตุใดต้องศึกษาการใช้ AI เพื่อการสนับสนุนทางอารมณ์

Alex หัวหน้าฝ่ายนโยบายและการบังคับใช้กฎระเบียบในทีม Safeguards ของ Anthropic เล่าให้ฟังว่าทางทีมงานสังเกตเห็นแนวโน้มที่ผู้คนเริ่มใช้ AI chatbot อย่าง Claude เพื่อขอคำแนะนำและการสนับสนุนทางอารมณ์มากขึ้น จึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องศึกษาพฤติกรรมเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้งานเกิดขึ้นในลักษณะที่ปลอดภัย พร้อมทั้งพัฒนากลไกการป้องกันในระบบให้เหมาะสม

ในขณะที่ Miles นักวิจัยในทีมศึกษาผลกระทบทางสังคมของ Claude ได้ขยายความว่าการศึกษาไม่ได้จำกัดแค่เรื่องคุณค่าทางเศรษฐกิจหรือความลำเอียงของ AI เท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่ด้านผลกระทบทางอารมณ์ของผู้ใช้ด้วย ส่วน Rin ซึ่งมีพื้นฐานด้านจิตวิทยาพัฒนาการและคลินิก ได้เสริมว่าการพัฒนาด้านอารมณ์เป็นเรื่องที่เธอให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการที่ผู้ใช้ AI จะได้รับผลกระทบอย่างไรเมื่อนำ AI มาเป็นตัวช่วยในสถานการณ์ที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์

Rin เล่าประสบการณ์ใช้ Claude ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูก

ตัวอย่างการใช้งาน Claude ในชีวิตจริง

หนึ่งในเรื่องราวที่ Rin แชร์นั้นน่าสนใจมาก เธอใช้ Claude เพื่อช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกชายตัวน้อย หลังจากได้รับฟีดแบ็คจากโรงเรียนที่อาจทำให้เกิดอารมณ์และอคติได้ง่าย การนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรึกษากับ Claude ช่วยให้เธอมีมุมมองที่เป็นกลางและวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างมีเหตุผลมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เธอรู้สึกว่าได้เป็นพ่อแม่ที่ดีขึ้น

ในขณะที่ Miles เล่าว่าเขาใช้ Claude เพื่อช่วยจัดการกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนในความสัมพันธ์กับเพื่อน โดยเฉพาะเมื่อเขาต้องการเสนอคำติชมอย่างระมัดระวัง Claude ช่วยเขาคิดและจัดรูปแบบคำพูดให้ออกมาเหมาะสม และยังช่วยให้เข้าใจว่าคนฟังจะรับรู้ข้อความนั้นอย่างไร

Alex เองก็ใช้ Claude เพื่อช่วยในการวางแผนงานแต่งงาน โดยเฉพาะเรื่องการจัดการเวลาติดต่อผู้ให้บริการต่างๆ ซึ่งช่วยลดความเครียดและเพิ่มเวลาที่จะได้ใช้กับเพื่อนๆ จริงๆ มากขึ้น

ทำไมผู้คนถึงเลือกใช้ AI เพื่อรับคำแนะนำทางอารมณ์?

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่รักการสื่อสารและต้องการความเชื่อมโยงทางสังคมอย่างลึกซึ้ง แต่ในบางครั้งเราอาจไม่สามารถหาใครสักคนที่ไว้ใจหรือพร้อมรับฟังในเวลาที่ต้องการได้ การมี AI ที่เป็นกลาง ไม่ตัดสิน และพร้อมให้คำปรึกษาอย่างเป็นส่วนตัวจึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ นอกจากนี้ AI ยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับฝึกฝนการสื่อสารในสถานการณ์ยากๆ เช่น การขอขึ้นเงินเดือนหรือพูดคุยเรื่องละเอียดอ่อนกับคนใกล้ตัว

ถึงแม้ Claude จะไม่ได้ถูกออกแบบมาเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางอารมณ์โดยตรง แต่การที่ผู้ใช้เลือกใช้มันในทางนี้ก็บ่งบอกถึงความต้องการบางอย่างที่ AI สามารถเติมเต็มได้ในระดับหนึ่ง

การออกแบบและวิธีการวิจัยเพื่อศึกษาการใช้งาน Claude ด้านอารมณ์

ทีมงานเริ่มต้นด้วยการเก็บข้อมูลจากบทสนทนากว่าหลายล้านครั้งบนแพลตฟอร์ม Claude.ai จากนั้นใช้ Claude เองในการตรวจสอบบทสนทนาเหล่านั้นว่าเกี่ยวข้องกับงานประเภทใดบ้าง โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับความรู้สึก เช่น คำแนะนำระหว่างบุคคล การให้คำปรึกษาทางจิตใจ การโค้ช การเล่นบทบาททางเพศหรือความรัก เป็นต้น

พวกเขาใช้เครื่องมือชื่อ Clio ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย Anthropic สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวสูงสุด เพื่อจัดกลุ่มบทสนทนาเหล่านั้นออกมาเป็นคลัสเตอร์ต่างๆ ตามหัวข้อที่เกิดขึ้นจริงในข้อมูล

ผลจากการวิจัยเผยให้เห็นว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่หันมาใช้ Claude เพื่อขอคำแนะนำเรื่องอาชีพ ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน รวมถึงคำแนะนำด้านการเลี้ยงดูบุตร ซึ่งประเด็นนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก

สถิติและข้อค้นพบที่น่าสนใจ

หนึ่งในความประหลาดใจของทีมงานคือ จำนวนบทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนทางอารมณ์บนแพลตฟอร์ม Claude.ai นั้นมีเพียงประมาณ 2.9% จากหลายล้านบทสนทนา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้ AI ในลักษณะนี้ยังไม่ใช่การใช้งานหลักของแพลตฟอร์มนี้ แม้จะมีผู้ใช้บางกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการพูดคุยเรื่องอารมณ์อย่างจริงจังก็ตาม

นอกจากนี้ การเล่นบทบาททางเพศหรือความรักผ่าน AI นั้นกลับพบว่ามีน้อยมาก น้อยกว่า 0.1% ของบทสนทนาทั้งหมด ซึ่งตรงข้ามกับความคาดหวังก่อนการวิจัยที่คาดว่าจะมีจำนวนมากกว่านี้

การอภิปรายเกี่ยวกับบทบาททางอารมณ์และบทบาททางเพศในบทสนทนา

ความกังวลและความท้าทายด้านความปลอดภัย

Rin แสดงความกังวลว่า หากผู้ใช้เลือกใช้ AI เพื่อละเลยการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบากในชีวิตจริง อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน สิ่งสำคัญคือผู้ใช้ต้องรู้จักขีดจำกัดของ AI และเข้าใจว่า AI ไม่สามารถทดแทนการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญหรือคนใกล้ตัวที่มีความรู้ลึกซึ้งได้

การที่ Claude ไม่ได้ถูกฝึกให้เป็นผู้ให้คำปรึกษาทางอารมณ์โดยตรง ทำให้ทีมงานต้องพัฒนากลไกป้องกันและรับมือกับบทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตอย่างจริงจัง โดยร่วมมือกับองค์กรอย่าง ThruLine ที่มีผู้เชี่ยวชาญทางคลินิกเพื่อช่วยวางแนวทางการตอบสนองและการส่งต่อผู้ใช้ไปหาผู้เชี่ยวชาญเมื่อต้องการ

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ใช้ AI เพื่อขอคำปรึกษาทางอารมณ์

ควรตั้งเวลาและทบทวนการใช้ AI อย่างสม่ำเสมอ ว่าการสนทนากับ AI ส่งผลต่ออารมณ์และความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอย่างไร รวมถึงควรระลึกเสมอว่า AI รู้แค่ข้อมูลที่ผู้ใช้บอกเท่านั้น จึงอาจมีจุดบอดที่ AI ไม่เข้าใจหรือไม่รู้จักในสถานการณ์ของผู้ใช้จริงๆ

ดังนั้น การมีเพื่อนหรือคนที่ไว้วางใจเพื่อปรึกษาควบคู่ไปกับการใช้ AI จะช่วยเติมเต็มมุมมองและทำให้การสนับสนุนทางอารมณ์มีความสมบูรณ์มากขึ้น

อนาคตของ AI กับบทบาทในชีวิตส่วนตัว

ทุกคนในทีมเห็นตรงกันว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในอนาคต AI จะมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตส่วนตัวของผู้คน โดยที่รูปแบบความสัมพันธ์และการใช้งาน AI จะพัฒนาไปตามกาลเวลา สิ่งที่จำเป็นคือการวิจัยที่มีฐานข้อมูลจริงและเป็นกลาง เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมการใช้งาน และพัฒนาระบบที่เหมาะสมและปลอดภัยมากขึ้น

เรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้ศึกษาลึกในงานวิจัยนี้คือพฤติกรรมที่เรียกว่า “sycophancy” หรือการที่ AI อาจตอบสนองแบบประจบประแจงเกินไป ซึ่งทีม Anthropic ก็ให้ความสำคัญในการติดตามและแก้ไขในระยะยาวควบคู่กับการทดสอบก่อนปล่อยใช้งานจริง

บทสรุปที่ได้จากการวิจัยและแนวทางต่อไป

งานวิจัยนี้ทำให้เราเห็นภาพรวมของการใช้ AI อย่าง Claude ในแง่มุมที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก นั่นคือการเป็นผู้ช่วยทางอารมณ์และคำปรึกษาในชีวิตประจำวัน แม้จะไม่ใช่เป้าหมายหลักของการพัฒนาระบบ แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความต้องการอย่างแท้จริงของผู้ใช้ในบริบทสังคมปัจจุบัน

ความท้าทายสำคัญคือการทำให้ AI สามารถตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ได้ในขณะที่รักษาความปลอดภัยและความรับผิดชอบสูงสุด และทำให้ผู้ใช้เข้าใจข้อจำกัดของ AI เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ในชีวิตจริง

นอกจากนี้ การร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตและการพัฒนากลไกการส่งต่อผู้ใช้ไปยังผู้เชี่ยวชาญจริง จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ AI มีบทบาทในด้านนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

มุมมองเพิ่มเติมและการวิเคราะห์

เมื่อพิจารณาถึงบทบาทของ AI ในฐานะ “ผู้ให้คำปรึกษาทางอารมณ์” ในอนาคต สิ่งที่น่าสนใจคือเราจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองและสังคมว่าเราต้องการให้ AI เข้ามาแทนที่หรือเสริมบทบาทของมนุษย์ในด้านนี้อย่างไร การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจนำไปสู่ความเหงา หรือการหลีกเลี่ยงปัญหาที่ต้องเผชิญหน้า แต่ในอีกด้านหนึ่ง AI ก็เปิดโอกาสให้ผู้คนที่ไม่มีทางเลือกหรือความพร้อมในการเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญได้มีพื้นที่ปลอดภัยในการระบายและฝึกฝนทักษะทางสังคม

ดังนั้น แนวทางที่เหมาะสมอาจเป็นการใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทน และการพัฒนา AI ในอนาคตก็ต้องควบคู่ไปกับการให้ความรู้แก่ผู้ใช้เกี่ยวกับขอบเขตและข้อจำกัด เพื่อให้เกิดการใช้งานอย่างมีสติและรับผิดชอบ

ท้ายที่สุด การศึกษาพฤติกรรมการใช้งาน AI ในมิติทางอารมณ์นี้ยังเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องการการวิจัยต่อเนื่องและการร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่ตอบโจทย์และปลอดภัย

คำศัพท์เฉพาะเพิ่มเติม

Sycophancy หมายถึง พฤติกรรมการประจบประแจงหรือยอมตามโดยไม่ตั้งคำถาม ซึ่งในบริบทของ AI หมายถึงการที่ AI ตอบสนองในทางที่ผู้ใช้ต้องการโดยไม่แสดงความเห็นที่สมเหตุสมผลหรือท้าทายความคิด

Safeguards เป็นกลไกหรือมาตรการที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานเทคโนโลยี เช่น การควบคุมเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือการป้องกันข้อมูลส่วนตัว

Clio คือเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่พัฒนาโดย Anthropic เพื่อให้สามารถศึกษาพฤติกรรมและเนื้อหาการสนทนาได้โดยไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

สรุปท้ายบทความจากทีม Insiderly

  • การใช้ AI เพื่อสนับสนุนด้านอารมณ์เป็นแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น แต่ยังไม่ใช่การใช้งานหลักของแพลตฟอร์ม Claude
  • ผู้ใช้ AI มักใช้เพื่อขอคำแนะนำในเรื่องอาชีพ ความสัมพันธ์ และการเลี้ยงดูบุตร มากกว่าการใช้ AI เป็นคู่สนทนาทางความรักหรือบทบาททางเพศ
  • ความปลอดภัยและความรับผิดชอบเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการออกแบบ AI สำหรับการสนับสนุนทางอารมณ์
  • การร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพจิตเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนากลไกการตอบสนองและส่งต่อผู้ใช้
  • ผู้ใช้ควรรับรู้ข้อจำกัดของ AI และไม่ควรใช้ AI แทนที่การสื่อสารและการสนับสนุนจากมนุษย์ในชีวิตจริง
  • การวิจัยและการติดตามพฤติกรรมการใช้งาน AI อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ AI พัฒนาไปในทิศทางที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสังคม

Great! You’ve successfully signed up.

Welcome back! You've successfully signed in.

You've successfully subscribed to บทความและข่าวอัพเดท จาก Insiderly.

Success! Check your email for magic link to sign-in.

Success! Your billing info has been updated.

Your billing was not updated.