เชื่อมต่อ Claude กับเครื่องมือที่ใช้งานง่ายในคลิกเดียว
เจาะลึกไดเรกทอรีเครื่องมือที่เชื่อมต่อ Claude กับ Notion, Canva, Figma และ Stripe ช่วยจัดการโปรเจกต์และงานร่วมกันได้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทำความรู้จักกับ ChatGPT Agent ผู้ช่วย AI ที่ไม่ใช่แค่ตอบคำถาม แต่สามารถจัดการงานวิจัย วางแผน และลงมือทำแทนคุณได้อย่างครบวงจร ช่วยลดภาระงานน่าเบื่อในชีวิตประจำวันอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อได้ชมคลิปวิดีโอจาก OpenAI ที่เล่าถึงการพัฒนา ChatGPT agent ที่ไม่ได้แค่ตอบคำถามหรือสนทนาอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยจัดการงานในชีวิตจริงได้อย่างครบวงจร เราจึงเห็นภาพของ AI ที่ไม่ใช่แค่ “ผู้ช่วยตอบโต้” แต่กลายเป็น “ผู้ช่วยปฏิบัติการ” ที่สามารถทำงานวิจัยและลงมือทำให้เสร็จสรรพได้อย่างน่าทึ่ง เรื่องนี้เปิดมุมมองใหม่ว่า AI จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของเราไปอย่างไร และมันจะช่วยลดภาระที่น่าเบื่อในชีวิตประจำวันได้มากแค่ไหน
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากแนวคิดที่ว่า การพัฒนาโมเดล AI ไม่ได้จำกัดแค่การเพิ่มความแม่นยำหรือความฉลาดของโมเดลเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพัฒนาเครื่องมือที่โมเดลสามารถใช้ได้ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์แบบ “ซิมไบโอติก” หรือการเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน
ยิ่งเครื่องมือดีขึ้น โมเดลก็สามารถใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น และเมื่อโมเดลฉลาดขึ้น มันก็จะสามารถใช้เครื่องมือที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก นี่คือวงจรที่ช่วยขับเคลื่อนให้ AI ทำงานได้ครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ
Devashish วิศวกรจากทีมผลิตภัณฑ์ของ OpenAI อธิบายว่าในชีวิตประจำวันของคนเรามักต้องใช้เครื่องมือต่างๆ มากมาย ทั้งในงานและชีวิตส่วนตัว เช่น ปฏิทิน อีเมล หรือเว็บเบราว์เซอร์ และเป้าหมายคือการฝึก AI ให้ใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มพลังให้กับ “เอเย่นต์” หรือผู้ช่วย AI ที่จะมาทำงานแทนเรา
ตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนคือ การที่เอเย่นต์ AI ถูกสั่งให้จัดทริปไปชมการแข่งขันเทนนิสที่ Brown Springs ในปีหน้า โดยมีเงื่อนไขว่าให้จัดตารางเดินทางรอบช่วงรอบรองชนะเลิศที่น่าตื่นเต้นที่สุด
เอเย่นต์ไม่ได้แค่ตอบคำถามว่า “ฉันจะไปยังไง” เท่านั้น แต่ยังจัดทำแผนการเดินทางอย่างละเอียด เช่น ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียม กิจกรรมที่ควรทำในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงเช็กตารางนัดหมายในปฏิทินจริงของผู้ใช้ เพื่อหาช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเดินทางและเวลาบินที่สะดวก
นี่คือฝันที่เป็นจริงของหลายคน ที่ไม่จำเป็นต้องนั่งค้นหาข้อมูลเองหรือเปรียบเทียบราคาให้วุ่นวายอีกต่อไป แค่บอกเอเย่นต์ว่าอยากได้อะไร จากนั้นก็ปล่อยให้มันจัดการแทน
เอเย่นต์ AI ต้องเริ่มจากการประเมินก่อนว่า งานนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องมืออะไรบ้าง จากนั้นจะเปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาเพื่อค้นหาข้อมูล และใช้ “connectors” ในการเชื่อมต่อกับข้อมูลส่วนตัว เช่น Gmail และ Google Calendar เพื่อเข้าถึงอีเมลและนัดหมายต่างๆ ของผู้ใช้
ด้วยข้อมูลนี้ AI จะตรวจสอบวันเวลาของการแข่งขัน เทียบกับเวลาที่ผู้ใช้ว่าง และประเมินค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงวางแผนเรื่องที่พักและมื้ออาหารตลอดทริป พร้อมทั้งหาข้อมูลการซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันให้ครบถ้วนในทุกวันของทริป
เมื่อเอเย่นต์เตรียมแผนการเดินทางเสร็จเรียบร้อย มันจะส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้ผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เราตรวจสอบและยืนยันได้ว่าทุกอย่างตรงตามความต้องการหรือไม่
ในตัวอย่างนี้ AI สามารถระบุได้ว่าการแข่งขันจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 15 มีนาคม และตรวจสอบเวลาว่างหลังประชุมในวันที่ 12 มีนาคม รวมถึงประเมินระยะเวลาการเดินทางไปสนามบิน SFO จากสถานที่ทำงานเพื่อเลือกเวลาบินที่เหมาะสมที่สุด
AI ยังสามารถเลือกโรงแรมที่พัก วางแผนการเข้าชมการแข่งขัน และแนะนำร้านอาหารในแต่ละวันได้อย่างครบถ้วน ซึ่งช่วยลดงานที่น่าเบื่ออย่างการค้นหาข้อมูลและวางแผนเองลงไปอย่างมาก
เรื่องน่าคิดคือ งานหลายอย่างในชีวิตประจำวันมักเต็มไปด้วยขั้นตอนที่น่าเบื่อ เช่น การค้นหาข้อมูล การเปรียบเทียบตัวเลือก หรือการจัดการตารางนัดหมาย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างคุณค่าโดยตรง แต่จำเป็นต้องทำ
เอเย่นต์ AI ทำให้เราสามารถ “ข้ามขั้นตอน” เหล่านี้ไปได้ แค่บอกเป้าหมายหรือความต้องการ จากนั้น AI จะทำการวิจัยและลงมือจัดการแทนเรา นี่จึงเป็นการเปลี่ยนเกมที่ช่วยให้เรามีเวลาทำงานที่สำคัญหรือใช้ชีวิตได้เต็มที่มากขึ้น
การเปลี่ยน AI ให้กลายเป็น “ผู้ช่วยที่ลงมือทำงานแทนเราได้จริง” น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในยุคดิจิทัลนี้ และเรามองว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะเพิ่มประสิทธิภาพชีวิตและงานของเราได้อย่างมาก